On Leadership”

0
2315

สวัสดีครับ คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน พบกันครั้งนี้เป็นเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็ยังเป็นช่วงที่เราต่างเผชิญกับภาวะวิกฤตจากโควิด 19 อยู่ ทั้งช่วงเวลานี้และต่อจากนี้ไปอีกนานหลายเดือนยังคงเป็นช่วงท้าทายสุดๆ สำหรับพวกเราในฐานะผู้นำนั้น ถ้าใครกระดูกไม่แข็งพอ ก็มีโอกาสที่จะม้วนเสื่อได้ตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อให้ใครก็ตามที่รับบทบาทผู้นำในทุกๆระดับขององค์กร  มีแนวทาง แนวพัฒนาและแนวการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสภาวะที่เกิดอยู่ ในครั้งนี้ ผมจึงขอแบ่งปันในเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้นำยุคนับจากโควิด 19 เป็นต้นไป ซึ่งผมสรุปเป็น “10 คุณสมบัติสำคัญของผู้นำนับจากโควิด 19 “ ดังนี้ครับ

1.การตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าต้องเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรให้อย่างน้อยเท่าทันภายนอก

ต่อไปนี้การวางแผนยาวๆจะไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะความปกติแบบใหม่ก็คือ ความไม่แน่นอนจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้เราต่างจับทางยากขึ้น ผู้นำจึงต้องมีวิชาจับยามสามตา ช่างสังเกต ช่างปะติดปะต่อสัญญาณต่างๆ และมีสติอยู่ตลอดเวลา และผลักดันให้ทีมภายในองค์กร มีการปรับเปลี่ยนตนเองอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญต้องมีรอบหมุนการเปลี่ยนที่เท่าทันด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเหมือนนักฟุตบอลที่โดนหลอกหัวหมุนตามไม่ทัน

2.ความสามารถในการสื่อสารวิสัยทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากเปลี่ยนแปลง

แม้การวางแผนยาวจะไม่ได้ผล แต่ผู้นำยังจำเป็นต้องมีภาพวิสัยทัศน์ขององค์กรอยู่ ภาพในอีก 5 ปี อีก 10 ปีข้างหน้า บริษัทเราจะเป็นองค์กรแบบไหน อยู่ที่ไหน มีผลกระทบต่อโลกใบนี้ในวงกว้างและลึกขนาดไหน และที่สำคัญคือ ต้องมีความสามารถในการสื่อสาร ให้คนเห็นภาพ เกิดความรู้สึก จนเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยกันสร้างภาพวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง จนถึงขั้นพร้อมที่จะบุกน้ำลุยไฟไปด้วยกัน

3.ความสามารถในการวางกลยุทธ์และมีวิสัยทัศน์

ผู้นำยังจำเป็นต้องมีความคิดจากสมองซีกขวาคือภาพวิสัยทัศน์และมีความคิดจากสมองซีกซ้ายคือคิดวางกลยุทธ์ หากเรามีสมดุลของสมองสองซีก จะทำให้เราสามารถมองเห็นภาพรวม และยังเก็บรายละเอียดได้ อีกทั้ง เราสามารถวิเคราะห์ ประเมิน สื่อสาร และเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้

4.ความสามารถในการบริหารสมดุลระหว่างโอกาส อุปสรรคและความเสี่ยง

การนำพาองค์กรนั้น หากเราเลือกทำแต่สิ่งเดิมๆ เท่ากับเราเลือกความถดถอย ดังนั้นจึงต้องมองหาโอกาสใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และโอกาสใหม่ที่ว่าก็มีอุปสรรคบางอย่างประกบมาด้วย คุณจึงต้องประเมินความเสี่ยงให้ออก จากนั้นก็เลือกในจุดที่คุณสามารถจัดการมันได้ลงตัว คุณก็จะสามารถนำองค์กรก้าวต่อไปได้

5.การมีความยืดหยุ่นในการสังเกต ทดลอง เรียนรู้และปรับเปลี่ยนที่คล่องแคล่วว่องไว

ผู้นำยุคต่อจากนี้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ก็ต้องมีความยืดหยุ่น ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ยึดติดตัวกูของกู ต้องยืดหยุ่น รับฟัง สังเกต ทดลองไอเดียใหม่ๆ ไม่ต้องรอความสมบูรณ์แบบ ทดลองแล้วก็เรียนรู้จากมันให้เร็ว และมีการปรับตัวที่คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว

6.ความสามารถในการบริหารที่สมดุลการก้าวผ่านระยะสั้นที่ส่งผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

คุณต้องพาองค์กรให้ผ่านพ้น จากการโดนน็อคในยกนี้ให้ได้ นั่นคือระยะสั้นต้องรอด ดูแลพนักงาน รักษาลูกค้าและบริหารเงินสดให้ดี จากนั้นเมื่อตั้งหลักได้ เราก็เริ่มกลับเข้าสู่ช่วงแม่ไม้มวยไทย มีการวางกลยุทธ์ มีสร้างนวัตกรรม เพื่อไปสู่การเติบโตในระยะยาวต่อไป

7.ความสามารถในการเข้าถึงความรู้สึก ความคิด ความอ่านของผู้อื่น

ยุคใหม่นี้หมดยุคข้ามาคนเดียว หรือข้ามากับพระแล้ว มันเป็นยุคที่ต้องร่วมแรงร่วมใจ เป็นยุคพลังทีม ซึ่งต้องเข้าใจความรู้สึก ความคิดของลูกค้า ความคิดของทีมงาน เพื่อให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ความรัก ความผูกพันและความรับผิดชอบร่วมกันจะเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ เราจะได้ทั้งความรู้ระดับลึกของผู้เชี่ยวชาญและความรู้ระดับกว้างที่มาจากการรับฟังและทำความเข้าใจฝ่ายงานอื่นๆ จนตกผลึกเป็นไอเดียที่ดีกว่า

8.ความสามารถในการดึงการมีส่วนร่วมของผู้คนทั้งภายในและภายนอกมาร่วมคิด ร่วมทำและร่วมสร้าง

ต่อเนื่องจากข้อ 7 ผู้นำต้องมีกระบวนการในการทำ Crowd Sourcing คือดึงความคิดความอ่านมาจากกลุ่มคนจำนวนมาก  มีกระบวนการในการสร้าง Co Creation และการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆที่เรียกกันว่า Collaboration เพื่อทวีพลังร่วมกัน

9.ความสามารถในการสนับสนุนให้ทีมงานทำงานได้ตามเป้าหมายและผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนวัตกรรม

ผู้นำต้องเป็นผู้สนับสนุน ให้เกิดบรรยากาศของความกล้าคิด กล้าแสดงความคิดและกล้าทำ ไม่ใช่เวทีจ้องจับผิดแบบปลากัด นอกจากนั้นยังต้องผลักดันให้คนทำงานกล้าไปให้สุดขอบ แล้วขยายตัวจากที่นั่นอีก และกระตุ้นให้มีการคิดและสร้างนวัตกรรม ทั้งผลิตภัณฑ์ ระบบงาน โมเดลธุรกิจ ช่องทางการขาย แบรนด์และความผูกพันของลูกค้า

10.ความสามารถในการตัดสินใจเรื่องยากๆได้อย่างถูกต้องในเวลาอันรวดเร็ว

ผู้นำยุคใหม่นี้ต้องกล้าตัดสินใจเรื่องยากๆอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว ต้องรู้จักบริหารเรื่องที่ต้องจัดการแบบ เร็ว ช้า หนัก เบาให้ถูกต้อง บางเรื่องต้องเร็วก็ต้องเร็ว บางเรื่องดึงจังหวะได้ต้องดึง และประเด็นสำคัญที่สุดคือ การรู้จักประเมินแยกแยะให้ออกว่า เรื่องไหนควรเร็ว เรื่องไหนควรช้า เรื่องไหนควรหนัก และเรื่องไหนควรเบา

ทั้งหมดนี้คือ “10 คุณสมบัติสำคัญของผู้นำนับจากโควิด 19” ถ้าท่านใดอ่านแล้วเห็นด้วย จงจัดเวลาให้กับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ผมมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการนำองค์ของท่านอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียวเชียวครับ

สวัสดีครับ