อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดกิจกรรม “เมืองทองโทเปีย ไมซ์ วอร์ค แรลลี่” ต่อยอดโครงการกล้าMICE ขยายฐานนักเรียนมัธยมปลาย ปั้นคลื่นลูกใหม่ให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทย

0
357

อิมแพ็ค เมืองทองธานี ต่อยอดโครงการกล้าMICE จัดกิจกรรม “เมืองทองโทเปีย ไมซ์ วอร์ค แรลลี่” อวดของดีเมืองนนท์ ดึงนักเรียนระดับมัธยมปลายเข้าร่วมกิจกรรม ชิงทุนการศึกษา 25,000 บาท ปั้นคลื่นลูกใหม่ให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทย

นางสาวทมิตา จงสวัสดิ์วรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงตลาดแรงงานเปลี่ยนไป ดังนั้นสิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของทุกองค์กรกำลังเผชิญอยู่ปัจจุบัน คือ การสรรหาบุคลากรยากขึ้น จากปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยน เช่น เงื่อนไขการทำงาน เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสร้างอาชีพใหม่ๆ ทำให้แรงงานมีทางเลือกเพิ่มขึ้นและไม่จำเป็นต้องเลือกทำงานกับบริษัทเท่านั้น อีกทั้งองค์กรยังต้องเผชิญกับปัญหาการไหลออกของพนักงาน ถือเป็นอีกโจทย์ยากที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องเร่งแก้ไข เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กรไว้ให้ได้ ซึ่งบริษัท ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป พร้อมจูงใจคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานควบคู่กันไป

สำหรับแนวทางการรักษาบุคลากรให้อยู่กับองค์กรต่อไป ทางบริษัทก็มีการเพิ่มและปรับเปลี่ยนในหลายมิติ อาทิ การปลูกฝังแนวคิดด้านนวัตกรรมให้พนักงานผ่านโครงการประกวดนวัตกรรม R2i ที่ส่งเสริมการคิดนอกกรอบ การคิดแก้ปัญหาจากแนวทางใหม่ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรแสดงศักยภาพของตนเอง สร้างความมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาองค์กร รวมถึงความสำคัญในการสร้างโอกาสการเติบโตให้พนักงานภายในองค์กร อีกทั้งยังสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Employee well-being) ด้วยการเปิดโอกาสให้ปรับเปลี่ยนงานภายในบริษัท และบริษัทในเครือ รวมทั้งให้พนักงานสามารถทำงานพาร์ตไทม์ในบริษัท เพื่อเพิ่มรายได้ และปรับเปลี่ยนแผนสวัสดิการพนักงาน เน้น Wellness Program เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงานด้วย ซึ่งทั้งหมดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข

“หลังโควิด-19 ทุกอย่างเปลี่ยนชัดเจน ในฐานะฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ต้องปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยในส่วนองค์กรก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ๆ ขณะที่คนรุ่นใหม่ที่เข้าสู่ระบบการทำงานก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับองค์กรด้วยเช่นกัน ด้วยการหาจุดสมดุลร่วมกันทุกด้าน ทั้งเงื่อนไขการทำงาน กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อพนักงานเองจะได้ทำงานได้อย่างมีความสุข ส่วนองค์กรก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว”

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งมั่นค้นหาคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน หนึ่งในนั้น คือ โครงการกล้า MICE ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ที่สนใจทำงานในอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรสายนี้ในตลาดแรงงานด้วย โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ผ่านการอบรมจากโครงการกล้าMICE ไปแล้ว 3 รุ่น จำนวน 106 คน โดยผู้ที่จบโครงการกล้าMICE รุ่นที่1-2 ได้ก้าวเข้าสู่สายงานนี้กว่า 60% ของผู้ที่ผ่านการอบรม ส่วนรุ่นที่ 3 อยู่ระหว่างการฝึกงาน แต่เชื่อว่าจะมีน้องๆจากโครงการนี้ก้าวเข้าสู่สายงานไมซ์ในสัดส่วนที่สูงขึ้น ส่วนน้องๆโครงการกล้า MICE รุ่นที่ 4 ซึ่งจบหลักสูตรในเดือนมิถุนายนนี้ ก็จะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ต่อไปในอนาคต

นายธามธิษณ์ เปาอินทร์ Assistant Manager – Employer Branding ฝ่ายทรัพยากรบุคคลองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ปีนี้โครงการกล้าMICE จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 โดยได้เปิดรับสมัครนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 2 – 3 ที่มีความสนใจในธุรกิจไมซ์ เพื่อทดลองเข้ามาปฎิบัติงานในฝ่ายต่างๆของอิมแพ็คตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งปีนี้มีน้องๆสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการกล้าMICE รุ่นที่ 4 เหลือเพียง 32 คน และเริ่มฝึกงานตั้งแต่ดือนเมษายน-มิถุนายน 2566

ทั้งนี้ น้องๆที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการกล้าMICE ต้องผ่านการเรียนรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติอย่างเข้มข้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ได้แก่ 1.Classroom ห้องเรียนบันดาลใจ ค้นหาความสนใจ ความถนัด จากประสบการณ์ตรงของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายงาน เช่น การเรียนรู้ด้านบริหารจัดการด้านอาหารสำหรับงานอีเวนต์ทุกรูปแบบ เทคนิการขายมัดใจลูกค้า ขั้นตอนจัดงานอีเวนต์ครบวงจร 2.Job Shadow ทดลองปฎิบัติงาน โดยสามารถเลือกสิ่งที่สนใจ พร้อมติดตามการทำงานของพนักงานในแต่ละฝ่าย เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมการทำงานจริง 3.Event Organizing การจัดอีเวนต์จริงบนพื้นที่อิมแพ็ค ด้วยการนำองค์ความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ เพื่อฝึกทักษะก่อนเข้าสู่สายอาชีพจริง

อย่างไรก็ตามในส่วนของการจัดอีเวนต์ก่อนจบหลักสูตรกล้าMICE นั้น ปีนี้เปิดกว้างให้น้องๆได้แสดงไอเดียการจัดอีเวนต์ในทุกรูปแบบ เพื่อให้สอดรับกับอุตสาหกรรมปัจจุบันที่รูปแบบอีเวนต์หลากหลายขึ้น ซึ่งแตกต่างจากที่ผ่านมาที่ให้จัดนิทรรศการตามหัวข้อที่กำหนด ซึ่งปีนี้น้องๆจากโครงการกล้าMICE รุ่นที่ 4 ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน อวดของดีเมืองนนท์ ภายใต้ชื่อ “เมืองทองโทเปีย : ไมซ์ วอร์ค แรลลี่” พร้อมเฟ้นหาว่าที่นักจัดอีเวนต์รุ่นใหม่ระดับชั้นมัธยมปลาย ที่มีความสนใจในธุรกิจไมซ์ เพื่อชิงทุนการศึกษารวม 25,000 บาท โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20-31พฤษภาคมที่ผ่านมา และมีทีมที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 24 ทีม เพื่อเข้าแข่งขันในกิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน2566 โดยทีมผู้ชนะ คือ ทีม “ความลับนางฟ้า” จากโรงเรียนสารวิทยา ส่วนน้องๆ ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการกล้าMICE ปีที่ 5 และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fan Page: กล้า MICE