ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.76 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์

0
377

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหว sideway ในโซน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามปัจจัยใหม่ๆ ทั้งประเด็นทิศทางนโยบายการเงินเฟด และการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางการจีน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Juneteenth อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงราว -1.02% หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอประเมินความชัดเจนของการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกขายทำกำไรหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและกลุ่มเหมืองแร่ออกมาก่อน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ในส่วนตลาดค่าเงิน เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของตลาดค่าเงินไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยเงินดอลลาร์ยังคงแกว่งตัว sideway เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 102.5 จุด

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate:LPR) ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยตลาดคาดว่า PBOC อาจปรับลด LPR ลงอย่างน้อย -10bps เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า อาจยังคงแกว่งตัว sideway ในกรอบเดิม โดยมีโซน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า ในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB และขายเงินดอลลาร์ สำหรับผู้ส่งออกบางส่วน

แต่หากเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยหนุนในวันนี้ อาจมาจากทิศทางเงินหยวนจีน ที่คาดว่าจะไก้รับอานิสงส์จากความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังทางการจีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เรามองว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจติดอยู่แถวโซนแนวรับ 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้ เนื่องจาก ในช่วงนี้ ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงพอสมควร ทำให้เราเริ่มเห็น โฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนญี่ปุ่นในจังหวะย่อตัวมากขึ้น อีกทั้ง ผู้นำเข้าบางส่วนก็อาจเริ่มทยอยซื้อเงินดอลลาร์สำหรับโฟลว์ธุรกรรมจ่ายปลายเดือน

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.85 บาท/ดอลลาร์