วช. ร่วมภาคีเครือข่ายจังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำ มั่นคง” ด้วยวิจัยและนวัตกรรม

0
14

วันที่ 4 กันยายน 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย“ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5 และน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้งใน 10 จังหวัด” ตามยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมนี้ผู้บริหารที่เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย คุณชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน คุณชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่


ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานกรรมการด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ และคณะกรรมการอำนวยการแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมแผนงานเป้าหมายสำคัญ ด้าน PM 2.5 รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงาน “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนจังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ ผู้บริหาร วช. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายชุมชน นักวิจัย และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่น โรงแรม ดิ อิมเพรส น่าน จังหวัดน่าน

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. ได้ร่วมกับ สวก. ดำเนินการการขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ในประเด็น “ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5” และ “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย ในการขับเคลื่อนและบริหารจัดการแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน.ฯ ในสองประเด็น คือ“ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5 (เป้าหมาย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน)” และประเด็น “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” (ซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัดทั้ง 4 ภูมิภาค: เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน กำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยภูมิ สงขลา และพัทลุง) โดยมีเป้าหมายสำคัญในเชิงกลยุทธ์ ดังนี้ 1. ประเด็นประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5 (เป้าหมาย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน) มี 3 เป้าหมาย คือ 1) ลดจำนวน Hostpot 2) ลดจำนวนวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ไม่เกิน 50 วัน/ปี และ 3) ลดจำนวนสถิติผู้ป่วย COPD

  1. ประเด็นน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด มี 3 เป้าหมาย คือ 1) น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง (100 ตำบล ใน 10 จังหวัด) 2) ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม น้ำแล้ง ลดลง 120,000 ครัวเรือน และ 3) รายได้เพิ่มขึ้น/ลดค่าใช้จ่ายจากภาครัฐ โดยที่ผ่านมา วช. ได้จัดกิจกรรมกับภาคีความร่วมมือฯ เช่นเดียวกับวันนี้ ไปแล้วใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก เชียงราย และพะเยา เพื่อเสริมสร้างกลไกการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในระดับพื้นที่ภายในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นท้าทายแนวทางการบริหารจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 การรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้ง ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พร้อมนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในเชิงของการต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดย วช. ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขในประเด็นฝุ่น PM2.5 นำไปสู่จุดเริ่มต้นสำคัญของการ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม สุดท้ายนี้ วช. ขอขอบคุณทุกหน่วยงานภาคีที่ร่วม MOU ในวันนี้อีกครั้ง ทั้งในจังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ รวมถึง สวก. อันเป็น PMU ร่วมขับเคลื่อน เพื่อนำวิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย สู่ความสมดุลและความยั่งยืนในระยะยาว

คุณชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า จังหวัดน่านมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่อง ภายใต้การขับเคลื่อนตาม ยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในสองประเด็นสำคัญเพื่อการแก้ไขปัญหาจาก PM2.5 การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

ในประเด็นน้ำมั่นคง จังหวัดน่านมีแม่น้ำน่านเป็นต้นน้ำที่มีความสำคัญยิ่ง เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คน วิถีชีวิต และระบบนิเวศของจังหวัดน่านมาอย่างยาวนาน แม่น้ำน่านยังเป็นแม่น้ำดันน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงกล่าวได้ว่า การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในจังหวัดน่าน ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อพื้นที่ของภาคเหนือเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นคงทางน้ำของพื้นที่ภาคกลางอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับจังหวัดน่านครั้งที่ผ่านมา จังหวัดน่านได้รับอิทธิพลของพายุวิภาเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำน่านอย่างกว้างขวาง เกิดฝนตกหนักคลุมเกือบทั้งหมดของพื้นที่ลุ่มน้ำเหนือจังหวัดน่าน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลรวมมาจากแม่น้ำตอนบนหลายสาย รวมลงสู่แม่น้ำน่านพร้อม ๆ กัน จึงทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านขึ้นสูงสุด ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า จังหวัดน่านต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ลักษณะนี้อยู่เสมอขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญของจังหวัดน่าน และของภาคเหนือตอนบนโดยรวม นำไปสู่การลงนามในวันนี้จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานทั้งในเรื่องของอากาศสะอาดและน้ำมั่นคงเป็นไปอย่างมีทิศทาง สามารถติดตามและขยายผลได้ในระยะยาวนับเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของประเทศที่เข้มแข็งมั่นคงต่อไป

คุณชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จังหวัดแพร่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการลดผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 และการจัดการทรัพยากรน้ำที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจังหวัดแพร่มีความเปราะบางด้านภูมิประเทศและระบบนิเวศที่เสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศ น้ำท่วม และภัยแล้ง ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการพัฒนาท้องถิ่น

การลงนามครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนบนพื้นฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่ มุ่งสร้างระบบจัดการสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง มีส่วนร่วมของชุมชน และรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จังหวัดแพร่ตั้งเป้าเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน พร้อมรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายใต้วิสัยทัศน์ “แพร่เมืองน่าอยู่ ชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เกษตรปลอดภัย ทรัพยากรสมบูรณ์ ท่องเที่ยวยั่งยืน

ถัดมา เป็นการกล่าวจุดมุ่งหมายของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ โดย
1.นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน
2.นางสาวลัดดา ยาวิรัชน์ เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญศูนย์บริการข้อมูลการวิจัย นวัตกรรม
เทคโนโลยีการเกษตร
3.นายปรีชา สุขรอด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน
4.นางสาวแทนฤทธา ศุภนิเวศพ์ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานลุ่มน้ำน่าน
5.นายพงศกร พุฒตรง ประธานสภาเกษตรกร
จังหวัดน่าน
6.พันเอก ดร.พงศ์ศิริ พงศ์อาริยะมงคล
รองประธานสภาวัฒนธรรม จังหวัดน่าน
7.นายสำรวย ผัดผล ประธานเครือข่ายรักษ์อากาศน่าน
8.ว่าที่ร้อยตรีสุเทพ วงค์วิเศษ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน
9.นายวีรพล รัชตานนท์ เลขาธิการหอการค้า
จังหวัดน่าน
10.นายเสนอ ปินะอินทร์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดน่าน
11.นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
12.นายพิภพ ถานะวุฒิพงศ์รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่
13.นายทรงศักดิ์ สันป่าแก้ว ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดแพร่
14.นายกฤตานนท์ ถนอมทรัพย์ทวี รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่
15.นายวุฒิไกร ผาทอง กรรมการบริหารสภาลมหายใจแพร่
16.นายประยุทธ ชาปง รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่
17.นายอดิศร ไชยบุญเรือง ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดแพร่

พร้อมนี้ มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ร่วมกันใน 2 จังหวัด
-จังหวัดน่าน ระหว่าง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน), จังหวัดน่าน, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 1, องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน, สภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน และสภาลมหายใจจังหวัดน่าน
-จังหวัดแพร่ ระหว่าง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน), จังหวัดแพร่, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 1, องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่, สภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ และสภาลมหายใจจังหวัดแพร่

ภายในงานมีการหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัย หน่วยงานท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
-“น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงาน
-“ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5” นำโดย ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมแผนงาน และ นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานการขับเคลื่อนด้านน้ำมั่นคง จำนวน 5 ผลงาน และผลงานด้านการแก้ไขปัญหา PM2.5 จำนวน 20 ผลงาน เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชน

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ และกิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาดน้ำมั่นคง” จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการรวมพลังทุกภาคส่วนในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ “แก้ปัญหาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน” และ “ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน” ผ่านความร่วมมือเชิงบูรณาการต่อไป