อธิบดีกรมควบคุมโรค ประกาศขับเคลื่อน 5 นโยบายสำคัญ “ผลักดันวัคซีนฟรี-ท่องเที่ยว ปลอดโรคปลอดภัย-ความปลอดภัยบนท้องถนน-คุ้มครองเด็กจากบุหรี่ไฟฟ้า-เดินหน้ายุติ วัณโรค” รับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข

0
17

ตามนโยบายนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคขานรับ เดินหน้าขับเคลื่อน 5 นโยบายสำคัญ เพื่อให้คนไทยปลอดโรคปลอดภัย เสริมสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง

วันนี้ (7 ตุลาคม 2568) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อน 5 นโยบายสำคัญของกรมควบคุมโรค ภายใต้นโยบาย ของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

  1. “ผลักดันวัคซีนใหม่เข้าสู่สิทธิประโยชน์เป็นวัคซีนฟรี” เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัย ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยศึกษาข้อมูลด้านประสิทธิผล ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ และผลกระทบต่อสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการบรรจุวัคซีนใหม่ที่จําเป็นเข้าสู่สิทธิประโยชน์วัคซีนพื้นฐานของประเทศ เช่น วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (IPD) และวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก นอกจากนี้ จะขยายกลุ่มเป้าหมายของวัคซีนเดิมที่ให้บริการอยู่แล้ว เช่น วัคซีนป้องกันโรคเอชพีวี (HPV) และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ รวมถึงเร่งรัดระดับความครอบคลุมของวัคซีนพื้นฐานในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยเฉพาะโรคที่เป็นเป้าหมายในการกําจัดกวาดล้าง เช่น หัด ไวรัสตับอักเสบ บี และโปลิโอ พร้อมทั้งพัฒนาระบบบริหารจัดการวัคซีนให้มีคุณภาพ เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและยังยืน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ลดภาระโรค และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศในระยะยาว
  2. “ท่องเที่ยวปลอดโรคปลอดภัย” ส่งเสริมการท่องเที่ยวปลอดโรคปลอดภัย โดยพัฒนาคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ให้บริการให้คำปรึกษาและวัคซีนป้องกันโรคก่อนเดินทาง พร้อมทั้งติดตาม เฝ้าระวังโรคตามช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการนําเข้าหรือส่งออกโรคติดต่อ รวมถึงส่งเสริมให้สถานประกอบการปลอดโรคปลอดภัย สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยง จากโรคและภัยสุขภาพ
  3. “ความปลอดภัยทางถนน” ด้วย 2 มาตรการสำคัญ ได้แก่ การตรวจประเมินสมรรถนะทางสุขภาพผู้ขับขี่ 25,000 คน ภายในปี 2569 โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป และผู้ขับขี่รถสาธารณะ เช่น รถโดยสาร รถบรรทุก รถนักเรียน รถพยาบาล และรถกู้ชีพ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากปัจจัยสุขภาพของผู้ขับขี่ และเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวปลอดภัย และขับเคลื่อนโครงการ “Car Seat Bank” หรือธนาคารที่นั่งนิรภัยเด็กในโรงพยาบาล ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ให้บริการยืมที่นั่งนิรภัยเด็ก ลดภาระค่าใช้จ่าย และสนับสนุนการเพิ่มประชากร ทำให้ “เด็กเกิดรอด ปลอดภัย”
  4. “คุ้มครองเด็กและเยาวชนจากพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า” โดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะรอบสถานศึกษา สถานที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ที่เด็กเข้าถึงได้ง่าย ควบคู่กับการสร้างกระแสสังคมรู้เท่าทันพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ ยังส่งเสริมให้ประชาชนร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส หากพบการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชน ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
  5. “ควบคุมป้องกันวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง” เร่งรัดการคัดกรอง ค้นหา และรักษาผู้ป่วยวัณโรค อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ สัมผัสร่วมบ้านผู้ต้องขัง ชุมชนแออัด และแรงงานข้ามชาติ โดยจะได้รับการตรวจคัดกรองด้วยการเอกซเรย์ทรวงอกและแปลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับการวินิจฉัยทางอณูชีววิทยา (Molecular Techniques) เพื่อค้นหาและรักษาผู้ป่วยให้ได้รวดเร็ว พร้อมตรวจหาวัณโรคดื้อยาในทุกกรณี ในส่วนของแรงงานข้ามชาติ ยังคงให้ความสำคัญต่อการควบคุมและป้องกันวัณโรค เนื่องจากหากไม่สามารถควบคุมวัณโรคในกลุ่มนี้ได้ ก็ยากที่จะยุติวัณโรคในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง การดูแลสุขภาพแรงงานข้ามชาติถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับบริการอย่างเท่าเทียม ผ่านระบบหลักประกันสุขภาพ โดยทุกคนจะได้รับการตรวจคัดกรองวัณโรคตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับประชาชนไทย
    “กรมควบคุมโรคจะเดินหน้าขับเคลื่อนทุกนโยบายเชิงรุกอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ประชาชน เข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างเท่าเทียม และร่วมสร้างประเทศไทยสู่สังคมสุขภาพดี ปลอดภัย และยั่งยืน สำหรับทุกคน” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป/กองโรคติดต่อนําโดยแมลง/กองป้องกันการบาดเจ็บ/
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/กองวัณโรค/กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ/