- นำเสนอหลากหลายสินค้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ใช้เทคโนโลยีเสริมงานบริการ ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน–
บราเดอร์ยังครองความเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์ของไทย ปีงบประมาณ 65 คาดการณ์อัตราการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์ไว้ที่ 13% และกลุ่ม non-print ที่ 16% พร้อมพัฒนากลยุทธ์เชิงรุกเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจรับโควิดคลี่คลาย
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยด้านการผลิตยังคงเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่บราเดอร์ต้องให้ความสำคัญอย่างมากในปีนี้ ปฎิเสธไม่ได้ว่า 2 ปีที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทุกธุรกิจต้องกำหนดมาตรการการทำงานแบบเว้นระยะห่าง ส่งผลให้สายงานการผลิตต้องควบคุมจำนวนพนักงานภายในโรงงานตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้มีปริมาณการผลิตที่ลดลง ประกอบกับสถานการณ์ด้านวัตถุดิบที่มีปริมาณไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการกระจายสินค้าเพื่อเติมเต็มความต้องการตลาดที่ยังเห็นสัญญาณการยังเติบโตอยู่ด้วยเช่นกัน
“ทั้งนี้ ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องพิมพ์ในปี 2564 ตามรายงานของ จีเอฟเค (GFK) ระบุว่า บราเดอร์ยังครองความเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำของตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างอัตราการเติบโตให้เกิดขึ้นใน 3 กลุ่มเครื่องพิมพ์จนสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์อยู่ที่ 37.1%, กลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 64.3%, กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 47.9% ทั้งยังครองอันดับ 2 ในกลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์อยู่ที่ 19.5% และจากปัจจัยด้านวัตถุดิบทำให้เครื่องพิม์อิงค์แทงค์ของบราเดอร์ยังคงเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 3 ของตลาดอยู่ที่ 20%” นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กล่าวถึงศักยภาพของบราเดอร์ที่ยังคงครองความเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาดเครื่องพิมพ์ไว้อย่างเหนียวแน่น
โดย 3 ปีต่อจากนี้ บราเดอร์ จะเดินหมากธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ CSB 2024 (Challenge Strategy Brother 2024) ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2565-2567 ผ่าน 3 แนวทาง ประกอบด้วย Re-energizing Business การปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อพัฒนากลยุทธ์สู่การเติบโตจากปัจจุบันสู่อนาคต Sustainability การดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับสังคม (local community) และสิ่งแวดล้อม (environment) โดยดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม (Good Governance) และ Driving DX หรือการขับเคลื่อนด้าน Digital Transformation (DX) โดยการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐานและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนขั้นตอนการทำงานและวัฒนธรรมขององค์กร เพื่อให้พร้อมเติบโตคู่กับไปกับกระแสเทคโนโลยีที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบัน โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจของบราเดอร์ทั้ง 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ความท้าทายของการทำธุรกิจในปี 2565 คือความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ทั้งสถานการณ์โรคระบาดกลายพันธุ์ เรื่องสงครามระหว่างประเทศ การถีบตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อธุรกิจทั่วโลก นอกจากนี้ การคาดการณ์ด้านดีมานด์ที่แท้จริงของตลาดก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของภาคธุรกิจเช่นกัน บราเดอร์เองต้องมีการประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถส่งมอบสินค้าที่ตลาดต้องการได้ถูกช่วงเวลา เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าและสร้างการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ นำเสนอมุมมองเกี่ยวข้องกับความท้าทายที่บราเดอร์ต้องเผชิญในปี 2565
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) ได้นำ CSB 2024 มาใช้เป็นแผนแม่บทเพื่อพัฒนาการตลาดเชิงรุกด้วยเช่นกัน โดย นายณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมกลยุทธ์ว่า นอกจากจะมุ่งสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์แล้ว บริษัทฯ ยังได้พัฒนาแผนเพื่อสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ non-print พร้อมกับพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการนำสินค้าที่มีมาสร้างเป็นโซลูชันเพื่อตอบความต้องการของตลาด พร้อมเพิ่มการรับรู้ในส่วนออฟไลน์ให้มากขึ้นทั่วประเทศด้วยการกระจายสินค้าไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงศักยภาพสินค้าจริงด้วยตนเอง เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย และสานต่อการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้จากการใช้วัสดุสิ้นเปลืองแท้ (Genuine Consumable products) จากบราเดอร์ภายใต้ความร่วมมือกับช่องทางการขายที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์แท้ โดยลูกค้าสามารถดูรายชื่อร้านค้าดังกล่าวได้ผ่านทาง www.brother.co.th ทั้งนี้ การเติบโตของช่องทางขายแบบอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Channel) ส่งผลอยากมากต่อประสิทธิภาพการขายในยุคปัจจุบัน บราเดอร์ จึงได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพในด้านดังกล่าวแก่ช่องทางการขายทั่วประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าส่งสินค้าใหม่ๆ ป้อนสู่ตลาดตลอดปี 2565
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บราเดอร์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างการรับรู้ (brand awareness) ผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง โดยสามารถเพิ่มยอดผู้ติดตามและแฟนเพจได้อย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มีลักษณะโดยรวมที่คล้ายกัน และในปีนี้เราจะก้าวไปอีกขั้นภายใต้กลยุทธ์ Brand Preference เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าแบบครบทุกมิติ พร้อมส่งมอบความประทับใจจากประสบการณ์การใช้จริงจากลูกค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งยังคงเน้นหนักในการนำเสนอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียดังเช่นที่ผ่านมา และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อด้วยการจัดโปรโมชันพิเศษอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำสินค้าในเครือบราเดอร์ทั้งหมดมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า” นายณเอก สงศิริ กล่าวถึงแผนการพัฒนาจากการสร้างการรับรู้สู่การก้าวสู่แบรนด์ในใจของผู้บริโภคในไทย
ด้านแผนการสร้างการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น นายณเอก สงศิริ กล่าวเสริมว่า “กลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์เลเซอร์และสแกนเนอร์จะมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก ในขณะที่กลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจทที่ปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากช่องทางโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะทวิตเตอร์ จะเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์การทำงานที่ผสมผสานระหว่างการทำงานในสำนักงานและที่บ้าน นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอย่างเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล GTX ก็จะยังคงมุ่งทำตลาดสู่กลุ่มผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ที่ต้องการริเริ่มและต่อยอดธุรกิจที่ตนเองมีให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของเครื่องพิมพ์ฉลาก P-Touch จะมุ่งการนำเสนอแบบโซลูชันใหม่เพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจ ส่วนจักรเย็บผ้าจะเน้นกลุ่มจักรปัก เพื่อรองรับการเพิ่มตัวของการเปิดสถานศึกษาและรองรับกระแสนิยมด้านงาน DIY และพร้อมรองรับการกลับมาเปิดให้บริการของสถานบันเทิงและการปรับปรุงระบบเสียงของพื้นที่ประชุมด้วยกลุ่มธุรกิจเครื่องเสียง BMB”
เมื่อองค์กรตั้งเป้าการเติบโตเชิงรุก แน่นอนว่างานบริการหลังการขายก็ต้องพร้อมรองรับการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนดังกล่าวว่า ปัจจุบัน บราเดอร์ ได้พัฒนาช่องทางการติดต่อให้แก่ลูกค้ามากถึง 7 ช่องทาง โดยในปีที่ผ่านมา บราเดอร์ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านงานบริการด้วยการคว้ารางวัลทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคมาครองได้สำเร็จ พร้อมพัฒนาการให้บริการอีกขั้นด้วยการเปิดตัวแชทบอทน้องแคร์ที่ให้บริการ 24×7 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ที่สำคัญยังได้พัฒนาแชทบอท ตัวที่ 2 ขึ้นในชื่อ Mr. Carer เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพงานด้านการซ่อมของศูนย์บริการแต่งตั้ง เพื่อส่งมอบการบริการแก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการสอบถามด้านเทคนิคการซ่อมต่างๆ มายัง Mr. Carer โดยได้เปิดตัวตั้งแต่มกราคม 2565 เป็นต้นมา เริ่มจากกลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์ และวางแผนขยายสู่กลุ่มธุรกิจ non-print ภายในปีนี้ โดยล่าสุดโปรเจคการพัฒนาแชทบอททั้ง 2 ตัว เพื่อรองรับงานด้านการบริการ ได้คว้ารางวัลที่ 1 จากการประกวด Brother AP Global Charter 2021 ในหัวข้อ Transform Award ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี ในการนำเทคโนโลยี ไปใช้ในการพัฒนาสร้างความพึงพอใจและการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับบราเดอร์ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก
“การเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการ เพิ่มเติมการให้บริการที่ทันสถานการณ์ ทันสมัย เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และ สร้างความผูกพันที่มีต่อแบรนด์ คือเป้าหมายของส่วนงานบริการของบราเดอร์ในปีนี้” นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ กล่าว “นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดการพัฒนาแชทบอทน้องแคร์ ตั้งแต่เมษายน 2565 รองรับ 2 ภาษา สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และจะเพิ่มช่องทางการติดต่อแชทบอทน้องแคร์ผ่าน Line OA เพื่อเพิ่มช่องทางสำหรับลูกค้าในการติดต่อ เพียงลูกค้าเป็นเพื่อนกับ Line Official Brother Thailand ที่สำคัญเรายังให้ความสำคัญต่อ Customer engagement ผ่านการสร้างแคมเปญที่มุ่งเน้นไปเพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้บริการตามความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ปัจจุบัน บราเดอร์ ได้ดำเนินการวัดระดับ Net Promoter Score (NPS) หรือความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ เพื่อสำรวจความพึงพอใจทุกครั้งและทุกช่องทางที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ โดยมีระดับความภักดีให้เลือก 0-10 เรียงลำดับจากน้อยไปมาก พบว่าผลลัพธ์ของคะแนน NPS อยู่ที่ระดับ 80-90 คะแนนในทุกช่องทาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าในประเทศไทยมีความเชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์อยู่ในระดับสูงและนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงงานด้านการบริการอยู่เสมอ นอกจากนี้ ในส่วนงานด้านบริการเสริมทั้ง brother care pack ทั้ง 6 การบริการเสริม และ brother fast care service ที่แบ่งออกเป็น fast care express การบริการรับส่งสินค้าเพื่อซ่อม และ fast repair service การส่งซ่อมด่วนทั้งที่ศูนย์บริการของบราเดอร์และการสนับสนุนการซ่อมในส่วนเครื่องพิมพ์อิงค์เจทโดยศูนย์บริการแต่งตั้งอีกกว่า 20 ศูนย์ที่สามารถซ่อมด่วนภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งในอนาคตจะขยายโมเดลการให้บริการดังกล่าวไปยังกลุ่มสินค้าอื่นๆ ของบราเดอร์ด้วย และการทิ้งวัสดุการพิมพ์อย่างถูกวิธี brother earth care โดยรับบริการฝากทิ้งที่ศูนย์บริการบราเดอร์ และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศเพื่อทำลายอย่างถูกวิธีช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม การขยายมาตราฐานการให้บริการแบบบราเดอร์ที่มีอยู่แล้วในทุกศูนย์ทั่วประเทศ เพิ่มเติมคือ การรับรองมาตราฐานการให้บริการโดยสถาบัน SQI ไปยังศูนย์บริการแต่งตั้งประมาณ 3-5 ที่ และสุดท้ายกับแผนการพัฒนาปรับศูนย์บริการให้กลายเป็น customer experience โดยลูกค้าสามารถเข้ามาชมเครื่องพร้อมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ และจะเพิ่มการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อสร้างความพึงพอใจอย่างไม่หยุดยั้งแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม”
ด้านนายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินการด้านกิจกรรมส่งเสริมสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมว่า แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 อยู่เป็นระยะ แต่บราเดอร์ก็ไม่หยุดจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสังคม เรายังเดินหน้าส่งเสริมด้านสังคมผ่านโครงการ Brother Beat Cancer Run ที่ปัจจุบันสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งโลหิตที่ยากไร้ได้ถึง 590 คน นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 บราเดอร์ก็ได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชนตลอดจนองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรนำเครื่องพิมพ์เข้าไปช่วยในโรงพยาบาลสนามและศูนย์ฉีดวัคซีน ตลอดจนร่วมมอบ ‘กล่องคลายกังวล’ ที่บรรจุยาและเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในการดูแลรักษาตนเองที่บ้านหรือระหว่างรอเตียง รวมถึงโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ สร้างสรรค์โครงการอาสาอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน และโครงการขวดพลาสติกพลิกชีวิต “อีโค่บริกส์” ที่เปลี่ยนขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติให้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้าง อันเป็นกิจกรรมหลักที่ทำให้บราเดอร์ได้รับเหรียญทองจากการประเมินสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ระดับดีเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดล้วนดำเนินการตามพันธสัญญาสากลที่ บราเดอร์ ยึดถือมาโดยตลอดคือความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนท้องถิ่นที่บราเดอร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วม ส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพื่อให้เกิดสังคมแห่งความสุขอย่างยั่งยืน
“บราเดอร์ได้ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Sustainable Development Goals ที่ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2593 โดยมุ่งเน้นใน 3 ส่วนหลักๆ ประกอบด้วย เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรสูงสุด ส่งเสริมสังคมที่ไร้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และผลลัพธ์สุทธิที่เป็นบวกในระบบนิเวศน์ ผ่านนโยบาย Environmental Vision 2050” นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร กล่าวถึงแผนระยะยาวของบราเดอร์ “การดำเนินโครงการต่างๆ นับจากนี้ จะมุ่งที่ผลลัพธ์เป็นสำคัญ อาทิ โครงการปลูกป่าเราต้องติดตามให้เกิดผลสำเร็จ เราจะไม่ได้ให้ความสำคัญที่จำนวนต้นไม้ที่ปลูกเท่านั้น แต่เราต้องให้ความสำคัญสูงสุดต่อจำนวนต้นไม้ที่รอดชีวิต เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของระบบนิเวศน์”
โดยในปีนี้ บราเดอร์ ยังคงเดินหน้าดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่อง โดยได้พัฒนาศักยภาพในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับเหล่าผู้ถือประโยชน์ร่วมแต่ละด้าน “ในส่วนของลูกค้า บราเดอร์ ได้พัฒนา customer data platform ขึ้นเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า พร้อมเพิ่มศักยภาพการให้บริการของศูนย์บริการต่างๆ สามารถรองรับความต้องการได้อย่างดียิ่งขึ้น ส่วนของพนักงาน บราเดอร์ ได้ปรับรูปแบบการมอบสวัสดิการให้เหมาะสมกับความต้องการของพนักงาน และให้ความสำคัญในการพัฒนาคนเพื่อทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่พันธมิตรทางธุรกิจนั้นบราเดอร์พร้อมเป็นที่ปรึกษา เพิ่มศักยภาพการขายและเติบโตควบคู่กันไป ด้านผู้ถือหุ้นนั้น จะต้องขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งยังสานต่อโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมที่ได้ทำมาให้เกิดขึ้นในระยะยาว” นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร กล่าวเสริม
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา บราเดอร์ ได้มีการแบ่งปันผลกำไรคืนกลับสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ และผลสำเร็จที่เกิดขึ้นในแต่ละโครงการที่ได้ดำเนินการ ก็ส่งเสียงสะท้อนกลับมาให้เห็นว่า การที่ธุรกิจจะมั่นคงแข็งแกร่งได้ในระยะยาว ต้องเกิดขึ้นควบคู่ไปกับความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน และจากความตั้งใจที่เราได้ส่งมอบออกไปนั้น ทำให้ผู้เกี่ยวข้องหรือผู้คนในสังคมได้สัมผัสถึงความตั้งใจดังกล่าว ก็ยิ่งเป็นพลังย้อนกลับมาให้บราเดอร์ได้ดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ต่อไป” นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร กล่าวสรุป
#brotherPRnews
Brother unveils CSB 2024 for an expansion strategy,
expecting 14% growth rate for the fiscal year 2022
through offering a variety of products that best suit diverse customer needs, adding technology to services, and committing to social
and environmental responsibility for sustainability
Brother remains on the top three in Thailand’s printer market, setting a fiscal 2022 growth target of 13% for the printer business group and 16% for the non-print and aiming to develop proactive strategies to build business growth in response to the post-pandemic recovery.
Mr. Teerawut Supapunpinyo, Managing Director of Brother Commercial (Thailand) Limited revealed that factors of production remain a top priority for Brother this year. There is no denying that the Covid-19 situation in the past two years brought about the social distancing measures in the workplace, resulting in the limitation on the number of workers in the factory which inevitably caused a drop in production. In addition, a shortage of materials affected product distribution that fulfilled market demand which has also shown sign of growth.
“According to the report of GFK, Brother continued to be one of the top three printer brands with the largest market share in the year 2021 and was able to generate growth in the three printer categories, making Brother a market leader amid the challenging conditions. The shares of the three printer categories consist of mono laser printer standing at 37.1%, mono laser multifunction gaining 64.3%, and color laser multifunction occupying 47.9%. Also, the color laser had the second largest of share at 19.5%. Due to the factor of materials, Brother’s ink tank printer continued to grow nearly at the same pace as the previous year, taking the third place of the share at 20%” said Mr.Teerawut Supapunpinyo.
Three years from now, Brother will be pursuing a strategy of CSB 2024 (Challenge Strategy Brother 2024), which will be implemented from the year 2022 to 2024 with three key tactics including 1. Re-energizing Business—an analysis of organizational success factors to develop strategies for growth from now to future 2. Sustainability—growing business with sustainability by recognizing local communities and the environment and with transparency and good governance, and 3. Driving DX, or Driving Digital Transformation, by introducing technology and digital strategies to lay the foundations and set the target of conducting business as well as work processes and organizational culture to be ready for growth amid the rapid change of current technology. These strategies will be used for Brother business in 15 countries in the Asia-Pacific region.
“The challenges of conducting business in the year 2022 are uncertainty of various factors related to business, for example, mutations of the coronavirus, wars, and the rising of oil prices, all having both direct and indirect effects on businesses on global markets. Moreover, the anticipation of true market demand is another challenge for business sector, making it necessary for Brother to continually evaluate the overall situation to ensure that we can deliver the demanded products at the right time, which will fulfill the customers’ needs and build growth for business as targeted accordingly” said Mr. Teerawut Supapunpinyo.
Regarding business strategy, Brother Commercial (Thailand) Limited has introduced CSB 2024 as the master plan for the development of proactive marketing strategy. Mr. Na-ake Songsiri, Deputy General Manager of Sales and Marketing, Brother Commercial (Thailand) Limited revealed the overall strategy that, in addition to building growth for printers, the company developed a plan for generating growth in the non-print as well as designing new business models by using the existing products as a solution to respond to the market needs. Offline awareness nationwide will also be raised through product distribution to allow customers to realize the potential of products when the Covid-19 situation is on the decline. Besides, the company will also continue to increase awareness of the benefits of using Brother’s genuine consumable products in collaboration with authorized sales channels which customers can check at www.brother.co.th. The growth of e-commerce channels also plays a significant role in the current sale efficiency. The company therefore continues to develop the potential of such channels among our sales channels nationwide while setting the target of launching new products to the market throughout the year 2022.
“Over the past two years, Brother has brilliantly succeeded in fostering brand awareness via social media in all platforms, creating the giant leap growth in the number of followers and fan page compared to other similar brands. This year we will step further with the strategy of Brand Preference to satisfy our customers in all dimensions and deliver an excellent customer experience to users in all product categories to enhance confidence among new customers which will be focused mainly on social media platforms as usual. In addition, we will accelerate the customer purchase decision process with continual sales promotion by organizing sales promotion activities for all Brother products for customers to enjoy new experience” said Mr. Na-ake Songsiri.
As for the plan for building growth in each product category, Mr. Na-ake Songsiri added that “corporate customers will be the main focus for laser printers and scanners while younger generation for inkjet printers, which received positive feedback on social media particularly Twitter, to respond to the new model of hybrid workplace. Besides, the business group enjoying high growth like the GTX digital garment printer will continue to aim at new generation of entrepreneurs who seek to start or further growth of their business. Regarding P-touch sticker printer, it will focus on offering new solutions for businesses while the focus of sewing machine will be on embroidery machine to manage the back-to-school market and the DIY trend, as well as to cope with the reopening of entertainment business and the improvement of sound system of conference halls with BMB Karaoke System”.
To achieve the business goals, top quality after sales service is necessary to effectively accommodate increased demands for services. Ms.Rassiyakorn Tanthavanich, Deputy General Manager of Customer Service, Brother (Thailand) Limited disclosed that Brother currently offers as many as 7 communication channels with customers. Last year Brother showed its potential for customer service through winning awards both nationally and regionally. The company has also made a step further by launching ‘Nong Care’, a customer service chatbot delivering 24×7 services which has received widespread praise for its performance from our customers. What’s more, Brother developed ‘Mr. Carer’, the second chatbot launched in January 2022 to support efficiency of authorized repair service centers which can deal with questions and answers of the repairing techniques, thus providing quick and instant service access to our customers. The service will initially be delivered in the printer business group before expanding its range to non-print later this year. Both chatbots won the 1st prize in Brother AP Global Charter 2021 organized under the theme of Transform Award, which is an excellent example of utilizing technology to develop customer satisfaction and efficient services for Brother in Asia-Pacific countries.
“Expanding service providing network, adding up-to-date services for instant access and faster services that meet diverse needs of customers and building bond between the brand and customers are the goals of customer service of Brother this year” said Ms.Rassiyakorn Tanthavanich. “Moreover, we have furthered the development of ‘Chatbot Nong Care’ from April 2022 who will be able to communicate both in English and Thai and added more communication channel through Line OA. Interested customers can enjoy this service by adding Line Official Brother Thailand as a friend on the Line app. We also prioritize customer engagement by creating campaigns focusing on elevating the level of service satisfaction and responding to the real needs of customers. Currently, Brother uses Net Promoter Score (NPS), a customer loyalty metrics, to measure customer satisfaction every time and every channel of services. The score is a number from 0-10 ranked in ascending order. It was found that the score results range from 80 to 90 in all channels, demonstrating that Thai customers have a high level of trust and loyalty to the brand, which we constantly use feedback to improve our services. Besides, in terms of additional services including six services in Brother Care Pack and Brother Fast Care service, which is divided into Fast Care Express and Fast Repair Service, as well as inkjet repair support by more than 20 centers provide fast repair service within three hours. In future, this service model will be expanded to other Brother product groups. Moreover, we are also committed to environmental responsibility and conservation through Brother Earth Care, a program which facilitates handling and disposal of printing materials appropriately. The additional expansion of Brother service standards which are already applied all service centers nationwide is the extension of SQI-certified to three to five authorized service centers. Finally, we have a plan to develop service centers into customer experience centers where customers can undertake a product trial before deciding to purchase and add technology into services to ensure customer satisfaction of all segments.”
Mr. Pornpuck Upaisilsataporn, General Manager Finance and Administration, Brother Commercial (Thailand) Limited said about the overall social and environmental responsibility activities that despite the Covid-19 situation, Brother never ceases to organize social activities. We proceeded with Brother Beat Cancer Run which helped 590 leukemia patients in need. Furthermore, to help the Covid-19 patients, Brother collaborated with the government sector, private sector and non-government sector in providing printers at field hospitals and vaccination centers, as well as supplied ‘Khlai Kangwon Boxes’ (Worry-easing boxes), a medicine box containing medicine, to patients during home isolation or in the period of waiting for beds in hospitals. We also continued with sustainability promotion programs such as Mangrove Forest Conservation and Restoration Project and ‘EcoBricks’ Project in which used undegradable plastic bottles are stuffed with waste plastic and turned into building blocks. The EcoBricks Project is a main activity that gains us the Gold Award from Green Office. All activities demonstrated the commitment to social and local community responsibility in which Brother participated to promote the quality of life for sustainable happiness in society.
“Brother works toward Sustainable Development Goals which covers a period between 2022 and 2024, focusing on three areas including maximizing resource circulation, contributing toward carbon-free society and positive net gain for biodiversity under the policy of Environmental Vision 2050” said Mr. Pornpuck. “From now on, the implementation of projects will be result-oriented. For instance, for a reforestation project, trees survival rate will be evaluated and monitored instead of focusing solely on the number of newly planted trees because it is a new starting point of an ecosystem.”
This year Brother is still moving forward with sustainability projects by developing the potential relevant to stakeholders in all aspects. “As for our customers, we have developed Customer Data Platform to analyze information for offering new solutions to our customers and elevating the potential of servicing of our service centers. For employees, we have remodeled welfare according to their needs and focused on human development amid the changing conditions. Regarding business partners, we always act as a consultant who helps unlock the potential for increasing sales and strengthening brand image and brand preference for the company. For shareholders, we are driving the organization toward sustainable growth to make a good value of investment and also continuing with social responsibility activities in the long run” added Mr. Pornpuck Upaisilsataporn.
“Over the years Brother has consistently given profits back into society and the environment, which we have heard an echo of success in each project, confirming that strengthening business in the long run must be practiced along with social and environmental sustainability. Our good intention that we conveyed can be perceived by stakeholders which encourages us to continue with our social responsibility projects” concluded Mr. Pornpuck Upaisilsataporn.
#brotherPRnews
For further information, please visit:
https://www.brother.co.th/
สามารถชมข้อมูลบราเดอร์เพิ่มเติมได้ที่
https://www.brother.co.th/th-th
https://www.facebook.com/BrotherCommercialThailand/
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Brother Contact Center ☎ 0-2665-7777
