ครั้งแรกในประเทศไทย เดอะมอลล์ กรุ๊ป จับมือ ไอบีเอ็ม ดึง เอไอ-อนาไลติกส์ขั้นสูง สร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบ Personalized ตอบรับไลฟ์สไตล์ Now Normal

0
1581

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักช็อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ (World Class Shopping Destination) ประกาศนำเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data System ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดาต้าและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) แบบครบวงจรที่รองรับการประมวลผลผ่านคลาวด์ สร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบเฉพาะบุคคล (personalized) เชื่อมต่อห้างฯ-ออนไลน์แบบไร้ขีดจำกัด นับเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโลกรีเทลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด  (Miss Voralak Tulaphorn ; Chief Marketing Officer, The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่าเดอะมอลล์ กรุ๊ป ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 เดินหน้านำเทคโนโลยีเข้าสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้า พร้อมวางกลยุทธ์พัฒนาบริษัทฯ ให้เป็น Omni Channel Retailers เราจึงนำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน มาเป็นตัวช่วยในการวางแพลทฟอร์มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากที่สุด ครบทุกช่องทางที่สุด ทั้งทางออฟไลน์ ออนไลน์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และก่อให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience)  หลังสถานการณ์โควิด-19  ทำพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เกิดเป็น Now Normal หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น วันนี้ลูกค้าส่วนหนึ่งชอบที่จะเลือกดูสินค้าจากบ้าน และใช้บริการ M Chat & Shop ของเดอะมอลล์ในการสั่งและจัดส่งสินค้าผ่านแชตแอพพลิเคชัน เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่าเราต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความซับซ้อนขึ้น การวางกลยุทธ์การตลาดจึงจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เราจึงใช้หนึ่งในกุญแจสำคัญคือการจับมือกับ IBM นำเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data System มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับการควบคุมกำหนดค่าไว้ก่อนแล้ว บนสภาพแวดล้อมของระบบ Red Hat OpenShift ที่มีความปลอดภัยและเปิดให้เข้าถึงบริการด้านดาต้าและเอไอระดับโลก       สร้างมุมมองเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับรูปแบบการช็อปปิ้งและสินค้าที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลการใช้จ่ายของฐานลูกค้าหลักของเรา คือลูกค้า M Card ซึ่งมีกว่า 4 ล้านราย, ลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 6 แสนราย และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น on-premise หรือคลาวด์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้สามารถนำเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าได้แบบตอบโจทย์รายบุคคล สร้างประสบการณ์แบบไร้ขีดจำกัดไม่ว่าลูกค้าออนกราวด์ที่มาเดินช็อปปิ้งในห้างฯ หรือช็อปปิ้งออนไลน์ที่บ้าน หรือใช้สิทธิพิเศษของห้างฯ ผ่านสมาร์ทโฟน จึงสำคัญมากที่ระบบหลังบ้านต้อง integrate กันสามารถให้มุมมองแบบ single view และเรียลไทม์ โดยเป็นการนำ Netezza Performance Server บนเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data System มาใช้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และวันนี้คืออีกก้าวย่างสำคัญของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการปรับตัวเพื่อให้เข้าใจและตอบสนองการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่มีความซับซ้อนขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์โมเดลใหม่โลกธุรกิจรีเทล  ในการสร้างมิติใหม่ของศูนย์การค้าแห่งอนาคต ที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่ทุกคนในฐานะผู้นำธุรกิจรีเทล มองประสบการณ์ของลูกค้าเป็นองค์รวม เป็นเรื่องที่ต้องเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ”

นายจิรยุทธ์ กาญจนมยูร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายไอที บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Mr. Jirayoot Karnjanamayoon ; Chief Information Officer, The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวเสริมว่า “เทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น IBM Watson Studio รวมถึง AutoAI ที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของเดอะมอลล์ กรุ๊ป สามารถค้นพบโมเดลและมุมมองเชิงลึกจากข้อมูลที่มีได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดด้วยตัวเอง ด้วยค่าอัลกอริธึมและพารามิเตอร์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์  โฟกัสของธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าต้องเปลี่ยนจากร้านค้าไปสู่ลูกค้ามากขึ้น และไม่ใช่การมองลูกค้าตามเซ็กเมนต์การตลาดเหมือนในอดีต แต่ต้องเป็นรูปแบบ insights-driven ที่เข้าใจและตอบโจทย์ลงลึกถึงความต้องการและไลฟสไตล์ของลูกค้าแต่ละคน การนำเทคโนโลยีอนาไลติกส์ขั้นสูงและเอไอมาใช้ในครั้งนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลของเดอะมอลล์ กรุ๊ป เร็วขึ้นถึง 60 เท่า ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการธุรกิจรีเทลในประเทศ” 

นางสาวปฐมา จันทรักษ์​ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด (Ms. Patama Chantaruck, Vice President for Indochina Expansion and Managing Director, IBM Thailand Co., Ltd.) กล่าวปิดท้ายว่า “การเปิดประตูต้อนรับนักช็อปด้วยแนวทางเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา คงจะไม่เพียงพอสำหรับโลกหลังสถานการณ์โควิด-19 และวันนี้ ไอบีเอ็ม หวังว่าพลังก้าวล้ำของแพลตฟอร์ม IBM Cloud Pak for Data ที่ผนวกเทคโนโลยีอย่างเอไอ แมชชีนเลิร์นนิง รวมถึงอนาไลติกส์ขั้นสูง จะเป็นหนึ่งในตัวพลิกเกมที่สำคัญสำหรับเดอะมอลล์กรุ๊ป ไอบีเอ็มมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสนับสนุนเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในก้าวย่างของการเดินหน้าสร้างมิติใหม่ของศูนย์การค้าแห่งอนาคต และการพลิกโฉมโลกรีเทลของประเทศไทย”

ที่ผ่านมา เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังได้นำเทคโนโลยีจากไอบีเอ็มเข้าสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งให้แก่ลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการนำเทคโนโลยี API (Application Programming Interface) เข้าสร้างประสบการณ์การแลกพอยท์ M Card แบบเรียลไทม์ให้แก่ลูกค้า โดยการที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป นำเทคโนโลยีอนาไลติกส์ขั้นสูงและเอไอมาใช้ในครั้งนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบ Omni Channel เต็มรูปแบบ ที่จะเป็นก้าวต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้