ธ.ก.ส. จับมือ GIZ สร้างศักยภาพให้แก่เกษตรกรและลูกค้า ภายใต้ “หลักสูตรฝึกอบรมทางการเงิน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

0
8

ธ.ก.ส. ร่วมกับ GIZ จัดหลักสูตรฝึกอบรมทางการเงิน เพื่อการรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเพิ่มศักยภาพของวิทยากรของธนาคารและสร้างความตระหนักรู้ และส่งต่อแนวทางการรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศให้กับเกษตรกรลูกค้าธนาคารเริ่มจากภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจำนวนกว่า 3,900 ราย ณ ห้องประชุมจำเนียรสาร ชั้น 24 เกษตรธนากร อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่


นายเกรียงไกร กัลหะรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นส่วนสำคัญของความเสี่ยง ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยถือวาระของธนาคารกลางทั่วโลกและเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือและองค์ความรู้ทางการเงินเพื่อการปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศซึ่ง ธ.ก.ส. ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผ่านการดำเนินงานโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมัน (GIZ) ภายใต้โครงการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อการปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในภาคการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Innovative Climate Risk Financing for the Agricultural Sector in the ASEAN Region: AgriCRF)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยมีศักยภาพในการบริหารจัดการทางการเงินและสามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส. และ GIZ มีแผนการขยายผลการนำหลักสูตรฝึกอบรมทางการเงินเพื่อการรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปต่อยอดในการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพ เช่น การปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Strengthening Climate – Smart Rice Farming Project: Thai Rice GCF) พร้อมกันนี้จะมีการขยายผลการนำเครื่องมือ ESG Risk Radar ใช้ในการประเมินความเสี่ยงก่อนการให้สินเชื่อภายใต้โครงการ Thai Rice GCF เพื่อเป็นมาตรการลดความเสี่ยงลูกค้าธนาคารและเสริมสร้างการบริหารความเสี่ยงอย่างยั่งยืน

ทางด้าน ดร. ทีโม เมนนิเคน ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า GIZ มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งภาคเศรษฐกิจ และภาคการเกษตรด้วยการเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะภาคการเกษตรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญเกษตรกรไทย

มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหารและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามเกษตรกรกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้นตามลำดับส่งผลกระทบต่อผลผลิตรายได้และคุณภาพชีวิต ดังนั้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง GIZ ธ.ก.ส. และภาคีเครือข่าย ในโครงการต่าง ๆ จะช่วยเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ทางการเงินให้กับเกษตรกร พร้อมกับเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและช่วยให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืนต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ BAAC Call Center : 02 555 5555
หรือ www.baac.or.th