มิติใหม่ SMEs ไทย ใช้งานวิจัยและการตลาดดันธุรกิจชุมชนร่วมเติบโตแบบยั่งยืน

0
63


นักวิจัยชี้การจัดการความร่วมมือรูปแบบใหม่ เป็นจุดเปลี่ยนให้ SMEsไทยก้าวข้ามปัญหา พร้อมเติบโต และขยายฐานการปลูก การผลิต และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆครอบคลุมทุกมิติ

นายสมประสงค์ พยัคฆพันธ์ รองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และหัวหน้าโครงการสร้างเครือข่ายธุรกิจชุมชนร่วม(Cluster) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการกองทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และวิจัยนวตกรรม(อว.)ให้สัมภาษณ์ว่า

โครงการสร้างเครือข่ายธุรกิจชุมชนร่วม (Cluster) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นดำเนินงานวิจัยโดยการพัฒนากลไกในพื้นที่ประกอบด้วย มหาวิทยาลัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ล้งที่มีอยู่ในพื้นที่ และสร้างการเชื่อมโยงกับภาคส่วนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยดำเนินการศึกษาวิจัยควบคู่กับการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนา SIE และพัฒนา Cluster สินค้าจำนวน 6 ประเภท ประกอบด้วย มะระขี้นก ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อนไหม อาหารและผลิตภัณฑ์ฮาลาล อาหารทะเล ผลไม้ และกาแฟ


ผลการวิเคราะห์และสรุปผลการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าความร่วมมือรูปแบบใหม่ ที่มีการรวมพลังของผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง มาร่วมมือกันในการบริหารจัดการระบบ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่จะร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ร่วมยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายฯ ผ่านกลไกการบริหารจัดการร่วมกันแบบ Co-Creation โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การตุ้นเศรษฐกิจในระดับประเทศ (Big Impact) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับห่วงโซ่ของเครือข่ายธุรกิจชุมชนร่วมในกลุ่มคลัสเตอร์ เศรษฐกิจและสังคม (Socio- Economic Mobility) ของครัวเรือนระดับเศรษฐกิจฐานรากในระดับพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนั้นจากการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมามีข้อค้นพบสำคัญคือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงภาคธุรกิจหลักในผลิตภัณฑ์ตามคลัสเตอร์เข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับการดำเนินงาน ทั้งด้านการตลาดและเทคโนโลยี การจัดทำแผนสำรองในการสร้างผลผลิตให้เพียงพอและสม่ำเสมอโดยขับเคลื่อนเชิงนโยบายด้วยการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐที่มีศักยภาพ