รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบนโยบาย สรพ. ศึกษาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติม ชี้ไม่ต้องการค้ากำไร แต่อยากให้มีเงินเพิ่มเพื่อสนับสนุนการทำงานด้านคุณภาพให้ดีขึ้น

นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) ประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. ณ ชั้น 5 อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานแก่ สรพ. ในอนาคต รวมทั้งรับฟังประเด็นปัญหาที่ สรพ. ต้องการให้ช่วยเหลือหรือผลักดันเชิงนโยบาย

ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลและการใช้งบประมาณในการพัฒนาและรับรองคุณภาพ รวมถึงการหาวิธีเพิ่มรายได้เพื่อเพิ่มเงินสนับสนุนการทำงานด้านคุณภาพ ที่ประชุมได้มีการหยิบยกประเด็นเรื่องงบประมาณประจำปีของ สรพ. ที่ได้รับจัดสรรน้อย และรายได้จากการเยี่ยมสำรวจก็เป็นรายได้ที่อยู่บนข้อจำกัดของสถานพยาบาลในการจ่าย ซึ่งผู้จ่ายอาจมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ในอีกมุมหนึ่งการพัฒนาและรับรองคุณภาพ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของระบบสุขภาพ เนื่องจากเมื่อมีระบบประกันคุณภาพเกิดขึ้นแล้ว จะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการให้บริการที่ไม่มีคุณภาพ ลดการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้แก้ไขความเสียหาย
ซึ่งโดยรวมแล้วจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของระบบบริการสุขภาพนับ 1,000 ล้าน ที่ประชุมยังได้พูดถึงการบูรณาการของบประมาณ เพื่อสนับสนุนสถานพยาบาลทุกสังกัดทั่วประเทศในการเข้าสู่กระบวนการคุณภาพ โดยมี สรพ. ดูแลในการขับเคลื่อนงาน ซึ่งจะทำให้สถานพยาบาลหลายๆแห่งที่มีข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการเยี่ยมสำรวจหรือค่าใช้จ่ายในการทำกระบวนการคุณภาพ เป็นการสะท้อนว่ารัฐให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณภาพบริการสุขภาพแก่ประชาชน อย่างไรก็ดี นายชัยชนะ ให้ข้อคิดเห็นว่าการบูรณาการงบประมาณนั้น ในทางปฏิบัติไม่ง่ายและอาจต้องไปตัดลดงบประมาณในส่วนอื่นของกระทรวงสาธารณสุขแทน เท่ากับว่าตัดตรงนั้นมาเพิ่มตรงนี้ ซึ่งไม่มีผลดี
นายชัยชนะ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากให้คิดคือการเพิ่มรายรับแก่ สรพ. เพราะปัจจุบัน สรพ. มีรายรับจากการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลและการจัดอบรมสัมมนาซึ่งไม่เพียงพอในการบริหารจัดการ ตนเสนอให้ สรพ. ลองไปศึกษากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ว่ามีช่องทางในการสร้างรายได้อื่นๆ หรือไม่อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์หนังสือจุฬาฯที่มีรายได้จากการเป็นคนกลางในการซื้อขายหนังสือระหว่างรัฐกับเอกชน หาก สรพ. สามารถทำได้แบบศูนย์หนังสือจุฬาฯ ก็จะมีรายได้มาพัฒนาองค์กรมากขึ้น
“ถ้ามองในกรอบอย่างเดียวเงินมันก็จะมีแค่นี้ ถ้าอยู่กับการคาดหวังงบประมาณประจำปีเราไม่สามารถอยู่ได้ โอเค เราไม่ต้องการค้ากำไร แต่อยากมีเงินมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานให้ดีขึ้น ผมยกตัวอย่างศูนย์หนังสือจุฬาฯ ซึ่งไม่ทราบว่า สรพ. ทำได้แค่ไหน ถ้าทำไม่ได้จะมีรูปแบบอื่นอย่างไร จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับระเบียบหรือผลักดันในจุดไหน”นายชัยชนะ กล่าว

ทั้งนี้ ทางผู้บริหาร สรพ. ได้รับนโยบายดังกล่าวและจะกลับไปศึกษาระเบียบข้อบังคับว่าการเพิ่มช่องทางหารายได้เพิ่มเติมสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนความเป็นไปได้ต่างๆ เช่น การจูงใจให้หน่วยนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้าสู่กระบวนการคุณภาพกับ สรพ. แลกกับการยกเว้นการวางเงินประกันสัญญากับ สปสช. เป็นต้น