แอมเวย์ มั่นใจกวาดยอดทะลุเป้า 20,000 ลบ. ย้ำกลยุทธ์ความสำเร็จเข้าถึงกลุ่ม Young@heart 

0
2370

แอมเวย์ ประกาศภาพรวมความสำเร็จตลอดทั้งปี ยังครองตำแหน่งผู้นำต่อเนื่อง มั่นใจยอดขายปีนี้ลุ้นทุบสถิติสูงสุดใหม่ทะลุเป้าที่ 20,000 ล้านบาท จาก 3 กลยุทธ์หลักด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่แตกต่างเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค และกระตุ้นไตรมาสสุดท้ายด้วยกลยุทธ์การปรับโครงสร้างรายได้นักธุรกิจแอมเวย์ด้วยโปรแกรม “คอร์พลัส” ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าความสำเร็จสู่ปี 2563 ด้วยการเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล (Personalized Product) ให้เข้าถึงง่าย โดนใจคนกลุ่ม Young@heart พร้อมสร้างการเติบโตของนักธุรกิจแอมเวย์ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและรองรับการใช้งานของผู้บริโภคด้วยเครื่องมือดิจิทัลในทุกทัชพอยต์

คุณกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอมเวย์คาดการณ์ว่ายอดขายปีนี้จะยังคงเติบโตทะลุเป้าที่ 20,000 ล้านบาท จากกลยุทธ์การเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือกลุ่ม Young@heart ทั้งในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการมอบโอกาสทางธุรกิจ พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการเป็นผู้นำตลาดสุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนยอดขายสูงสุดมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ และอาร์ทิสทรียังคงเป็นแบรนด์เครื่องสำอางพรีเมียมอันดับ 1 ของประเทศไทย* ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่มบ้านและเทคโนโลยี (Home Living) ที่ปีนี้ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคอย่างถล่มทลายเหนือความคาดหมาย”

“เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แอมเวย์ได้ปรับโครงสร้างรายได้ของนักธุรกิจแอมเวย์ทุกระดับด้วยโปรแกรม “คอร์พลัส” (CORE PLUS+) เพื่อเพิ่มรายได้ช่วงเริ่มต้นทำให้ได้ผลตอบแทนทันทีตั้งแต่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก รวมถึงเพิ่มรายได้ที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอในทุกช่วงลำดับการเติบโตในธุรกิจ โดยโปรแกรมนี้จะทำให้นักธุรกิจแอมเวย์ที่ทำธุรกิจอย่างต่อเนื่องและจริงจังมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20 – 30% และสัญญาณบวกหลังจากที่เริ่มใช้โปรแกรมคอร์พลัสเพียง 2 เดือน (เดือนกันยายนถึงตุลาคม) มียอดการสมัครเป็นนักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกใหม่เติบโตเฉลี่ย 30% แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของโปรแกรม พร้อมด้วยการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคยุคนี้ และเสริมทักษะในการใช้โซเชียลมีเดียในการดำเนินธุรกิจให้นักธุรกิจแอมเวย์ ด้วยการเน้นให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์แอมเวย์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค”

สำหรับกลยุทธ์การตลาด แอมเวย์ เน้นสร้างประสบการณ์กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภาพและความงาม ด้วยโซลูชั่นผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ การเข้าถึงกลุ่ม Young@heart ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจแอมเวย์ทั้งด้านเครื่องมือดิจิทัลและการปรับโครงสร้างรายได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ้นปี 2562 แอมเวย์จะเติบโตด้วยยอดขายสูงสุดทะลุ 20,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีหน้า แอมเวย์ยังคงเน้นผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามกลุ่มเฉพาะบุคคล (Personalized Product) พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้าถึงง่ายสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคในทุกทัชพอยต์ ตลอดจนมุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์หลักเพื่อสร้างการเติบโตของนักธุรกิจแอมเวย์อย่างยั่งยืน” คุณกิจธวัช กล่าว

คุณรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “กลยุทธ์การตลาดตลอดทั้งปีที่ผ่านมาของแอมเวย์ยังคงเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ (Product Solution) ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น (Personalized Product) โดยยึดหลัก Consumer Centric หรือการยึดความต้องการผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปพร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “นิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์ ไฟโตเบลนด์” (Nutrilite Double X Phyto Blend) วิตามินรวม เกลือแร่รวม และสารสกัดจากพืช โดยพัฒนาสูตรจากเดิมที่ติดอันดับผลิตภัณฑ์ขายดีของแอมเวย์ทุกปี พร้อมด้วย แบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ของแบรนด์นิวทริไลท์ คือ “ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และมาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์” ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเครื่องกรองอากาศ “แอทโมสเฟียร์ สกาย” (Atmosphere Sky) ที่ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ขาดตลาดทันทีที่เริ่มวางจำหน่าย และด้านผลิตภัณฑ์ความงาม แอมเวย์ยังคงต่อยอดเทรนด์เพอร์เซอนัลไลซ์ด้วย “อาร์ทิสทรี ซิกเนเจอร์ ซีเล็กต์ มาสค์” (Artistry Signature Select Mask) มาสค์ดูแลผิว 5 สูตร ที่ผู้บริโภคสามารถออกแบบทรีทเมนท์สูตรเฉพาะของตนเองได้ จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั้งสิ้น และเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้”