กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.70 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดทรงตัวที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ ค่อนข้างแคบระหว่าง 32.32-32.61 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยน แม้ในช่วงแรกดัชนีดอลลาร์พุ่งทะลุระดับ 100 โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงาน ADP และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนตุลาคมของสหรัฐฯที่สดใสเกินคาด
นอกจากนี้ ถ้อยแถลงล่าสุดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)หลายรายสะท้อนถึงท่าทีที่ระมัดระวังต่อทิศทางนโยบายการเงิน โดยเน้นถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนของข้อมูล ทางด้านเงินเยนฟื้นตัวขึ้นหลังการแทรกแซงด้วยวาจาโดยรมต.คลังของญี่ปุ่นซึ่งกล่าวย้ำว่ากำลังจับตาความเคลื่อนไหวทางเดียวของเงินเยนอย่างใกล้ชิดและด้วยความเร่งด่วน ส่วนค่าเงินปอนด์ปรับตัวผันผวนหลังธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)มีมติ 5 ต่อ 4 เสียงให้คงดอกเบี้ยที่ 4.00% ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 1,265 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 8,228 ล้านบาท
สำหรับในสัปดาห์นี้ การปรับตัวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในระยะนี้สะท้อนให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ได้รับอานิสงส์บางส่วนจากสุญญากาศด้านข้อมูล ท่ามกลางภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เราประเมินว่าหลังรัฐบาลเปิดทำการและสามารถเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจได้ นักลงทุนอาจจะเห็นภาคแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจน อนึ่ง ยิ่งการปิดทำการยืดเยื้อมากเท่าใดต่อจากนี้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะยิ่งมากขึ้น นอกจากนี้ การไต่สวนของศาลสูงสุดเรื่องอำนาจประธานาธิบดีทรัมป์ในการใช้มาตรการ Reciprocal Tariff โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสภาเพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยคำตัดสินอาจออกมาภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2569 ขณะที่รัฐบาลทรัมป์กำลังเตรียมใช้กฎหมายการค้าฉบับอื่นเพื่อทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับภาพรวมในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนตุลาคมของไทยลดลง 0.76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 อีกทั้งเป็นเดือนที่ 8 ที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ทางด้านกระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงติดลบในเดือนพฤศจิกายนและมีโอกาสที่จะเป็นลบตลอดทั้งปี 2568 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมพลังงานและอาหารสด เพิ่มขึ้น 0.61% ในเดือนตุลาคมต่ำกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน





















