เชียงรายเร่งเครื่องพิสูจน์ศักยภาพไมซ์ เป้าหมายจุดหมายปลายทางด้านชาและกาแฟระดับโลก ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Global Coffee and Tea Association Forum 2025: Shaping the Future Together” ผสานงานประชุม นิทรรศการและการลงพื้นที่ครบจบในงานเดียว ดึงผู้ร่วมงานนานาชาติ 46 คนจาก 11 ประเทศ/เขตปกครองเข้าร่วมงาน ออสเตรเลีย กัมพูชา จีน โคลอมเบีย เดนมาร์ก อินโดนีเซีย ฮ่องกง เมียนมา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเวียดนาม จากยอดผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 211 คน

ในงานนี้ ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนความรู้ สร้างเครือข่ายธุรกิจ และพัฒนาศักยภาพ พร้อมทั้งลงพื้นที่เยี่ยมชมไร่ชาและกาแฟ โรงงานแปรรูป และลิ้มรสผลิตภัณฑ์ต้นตำรับ สร้างโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมชาและกาแฟในเชียงราย

งาน Global Coffee and Tea Association Forum 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือระหว่างหลายองค์กร ได้แก่ สถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เป็นการต่อยอดจากการจัดงาน Symposium นานาชาติด้านชาและกาแฟในปี 2566 และ 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมชาและกาแฟในระดับนานาชาติและการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการชาและกาแฟในเชียงราย โดยเฉพาะกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากต่างประเทศที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นการนำเสนอพลังทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชาและกาแฟของเชียงราย

นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ และรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “เชียงรายได้แสดงศักยภาพของเมืองที่สามารถเป็นเจ้าภาพงานไมซ์ระดับสากลได้อย่างดีเยี่ยม งานนี้คือตัวอย่างของการใช้ไมซ์เป็นเวทีและเครื่องมือส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอย่างชาและกาแฟของจังหวัด ผลักดันให้เชียงรายกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต แปรรูป และซื้อขายชาและกาแฟทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลชาและกาแฟระดับประเทศและนานาชาติในอนาคต”
เวทีส่งเสริมความรู้ เปิดประเด็นระดับโลก
งานครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการประชุมและการเสวนาโต๊ะกลมที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยมีวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการด้านชาและกาแฟจาก จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เมียนมา สิงคโปร์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เวียดนาม และไทย ร่วมนำเสนอและแลกเปลี่ยนประเด็นที่หลากหลาย ทั้งความท้าทายของอุตสาหกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความยั่งยืน การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การผสมและปรุงแต่งรส และแนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลงานวิจัย การแปรรูป และนวัตกรรมการผลิต
นิทรรศการพลังและศักยภาพของผู้ประกอบการ
การจัดนิทรรศการ “Chiang Rai Brewtopia Green Season” ที่อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง โดยมี นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายภูริพันธ์ บุนนาค และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยาภรณ์ เชื่อมชัยตระกูล หัวหน้าสถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานเปิดงาน ภายในนิทรรศการมีผู้ประกอบการชาและกาแฟกว่า 40 ราย นำเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นทั้งจากชนเผ่าบนดอย ผู้ประกอบการหน้าใหม่ และช่างฝีมือท้องถิ่น ให้กับผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เลือกซื้อ ลิ้มลอง และพูดคุยโอกาสทางธุรกิจ พร้อมกิจกรรมเวิร์กชอป เสวนาธุรกิจ และการสาธิตผลิตภัณฑ์
เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบ ชูจุดแข็งด้านการผลิต
เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของการเป็นจุดหมายด้านชาและกาแฟ มีการจัดกิจกรรม “A Cup to Village” พาผู้ร่วมงานชาวต่างประเทศลงพื้นที่ไร่และโรงงานต้นแบบ อาทิ ไร่ชาฉุยฟง อ.แม่จัน ชมการปลูกชาระบบขั้นบันไดแบบออร์แกนิก พร้อมกระบวนการผลิตและชิมชาอู่หลงที่คว้ารางวัล ไร่ชาวังพุดตาล ดอยแม่สลอง เยี่ยมชมเส้นทางการพัฒนาชุมชนด้วยชาอู่หลงและชาดำคุณภาพสูง โดยชาดำคว้ารางวัล Grand Gold Prize ในงาน World Green Tea Contest 2021 กาแฟดอยช้าง อ.แม่สรวย แสดงผลสำเร็จของการปลูกกาแฟอาราบิก้าภายใต้โครงการหลวงแทนการทำไร่เลื่อนลอยในปี 2512 ปัจจุบันมีแบรนด์เป็นที่ยอมรับส่งออกกว่า 10 ประเทศ ได้รับ GI จากสหภาพยุโรป และจบด้วยกิจกรรม Coffee Cupping ให้กับผู้ร่วมงาน ณ ร้าน “Queen of Coffee”
การเป็นเจ้าภาพงาน Global Coffee and Tea Association Forum 2025 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเชียงรายในการพัฒนาเมืองเป็นจุดหมายการจัดงานไมซ์ อีกทั้งในปี 2567 เชียงรายติดอันดับเมืองไมซ์ของ ICCA เป็นครั้งแรกจากการจัดงานที่เข้าเกณฑ์ ICCA จำนวน 2 งาน และในปี 2568 ยังเป็นเจ้าภาพประชุม AIPH Spring Meeting 2025 & Green City Conference 2025 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเตรียมต้อนรับงาน PATA Destination Marketing Forum ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
“ตามยุทธศาสตร์ของทีเส็บ ที่ต้องการกระจายงานไมซ์ไปยังเมืองรองที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว เชียงรายคือหนึ่งในเมืองที่มีมรดกชาและกาแฟเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างของความสามารถในการดึงดูดงานระดับนานาชาติ และวางตำแหน่งเมืองบนแผนที่ไมซ์โลกได้อย่างแท้จริง” นายภูริพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย