เอปสันตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้างเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมใหม่เสริมศักยภาพธุรกิจยุคดิจิทัล

0
18

เอปสัน ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมปี 2567 สูงถึง 28% พร้อมเสริมทัพด้วยนวัตกรรมรุ่นใหม่ในกลุ่มป้ายโฆษณาและสิ่งทอ เพื่อตอบรับคลื่นการเปลี่ยนแปลงของตลาดในยุคที่เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลครองทุกอุตสาหกรรม

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567เอปสันประสบความสำเร็จในการรักษตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 28% โดยแบ่งเป็นรายผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้ กลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา (Signage) มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 30% ครอบคลุมเครื่องพิมพ์ในระบบหมึก Eco Solvent, Solvent และ Latex ในส่วนเครื่องพิมพ์สิ่งทอ (Graphic Textile) เอปสันเป็นแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุด ครองส่วนแบ่ง 30% ของตลาด เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ภาพถ่าย (Photographic) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 32%”


“ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามพันธกิจของไซโก้ เอปสัน ในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมการพิมพ์ โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพการผลิต และความสะดวกในการใช้งาน ผ่านเทคโนโลยีและโซลูชันระบบอิงค์เจ็ทที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เอปสัน ประเทศไทยได้เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจดังกล่าวอย่างเต็มที่ ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ช่วยผลักดันการเติบโตและต่อยอดธุรกิจของลูกค้า ทั้งกลุ่มที่เริ่มปรับใช้ระบบดิจิทัล และกลุ่มที่ยังใช้ระบบดั้งเดิม ผ่านการผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ ซอฟต์แวร์ การบริการ และโมเดลธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ปัจจุบัน เอปสันมีฐานลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่โรงงานสิ่งทอ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ นักออกแบบ แบรนด์สินค้า ไปจนถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจการพิมพ์แบบออนดีมานด์”

เอปสันตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา ด้วยการเปิดตัว SureColor SC-S9130, SC-S8130 และ SC-S7130 เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 64 นิ้ว ระบบ Eco Solvent ที่พิมพ์ได้ทั้งงานภายในและนอกอาคาร ทั้งสามรุ่นได้รับการอัปเกรดด้วยหัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP รุ่นใหม่ ช่วยให้พิมพ์งานได้เร็วยิ่งขึ้น มี Nozzle Verification Technology เพื่อตรวจจับหัวพิมพ์อุดตันและปรับคุณภาพการพิมพ์อัตโนมัติ ทั้งยังมีโหมด Text Sharpness สำหรับพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กได้คมชัดสุดถึง 3 พอยต์ และใช้หมึก UltraChrome GS3 ซึ่งผ่านการรับรอง Greenguard Gold มั่นใจได้ทั้งด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


สินค้าไฮไลท์ได้แก่ SC-S9130 ซึ่งมีจุดเด่นที่ระบบหมึก 11 สี จำนวนสีมากที่สุดในตลาด โดยเพิ่มหมึกสีเขียว (Green) ช่วยให้พิมพ์ด้วยขอบเขตสีที่กว้างขึ้นและเก็บรายละเอียดของสีได้มากและแม่นยำยิ่งขึ้น ตอบโจทย์งานระดับพรีเมียม เช่น โปสเตอร์สินค้าแบรนด์หรู สติกเกอร์แร็ปรถ ฉลากเครื่องสำอาง งานศิลปะ ไปจนถึงงานออกแบบที่มีสีสันสะดุดตา ขณะที่รุ่น SC-S8130 เป็นเครื่องพิมพ์ระบบหมึก 6 สี ที่เพิ่มสี Light Cyan และ Light Magenta รองรับชุดหมึกทั้ง 800 และ 1,500 มิลลิลิตร พร้อมฟังก์ชัน Hot Swap เปลี่ยนหมึกขณะพิมพ์ได้โดย ไม่ต้องหยุดงาน เหมาะ

สำหรับลูกค้าที่ต้องการพิมพ์งานเร็ว แต่ยังคงคุณภาพสีสันสวยงามและความคมชัด ส่วน SC-S7130 เป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ให้บริการงานพิมพ์ที่เน้นการผลิตงานปริมาณน้อยแบบออนดีมานด์ มาพร้อมระบบป้อนวัสดุที่แม่นยำ ช่วยให้การพิมพ์งานปริมาณมากเป็นไปอย่างราบรื่น และฟีเจอร์ใช้งานสะดวก

ทั้งการจัดเรียงวัสดุและทำความสะอาดหัวพิมพ์แบบอัตโนมัติ รวมถึงการควบคุมผ่านระบบออนไลน์ นายยรรยง กล่าวต่อว่า “เอปสันได้พัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเอปสันเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่มีเครื่องพิมพ์หน้ากว้างครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในอุตสาหกรรมงานพิมพ์เพื่อสิ่งทอ ทั้งกลุ่ม Dye Sublimation สำหรับงานบนผ้าโพลีเอสเตอร์ เช่น เสื้อกีฬาและแฟชั่น กลุ่ม Direct-to-Garment สำหรับพิมพ์ตรงลงบนผ้าฝ้ายโดยยังคงเนื้อสัมผัสเดิมของผ้า และล่าสุดคือ Direct-to-Film (DTFilm) ที่เติมเต็มพอร์ตสินค้าอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความยืดหยุ่นสูงในการพิมพ์ลงบนฟิล์มก่อนนำไปถ่ายโอนบนวัสดุหลากชนิด เหมาะกับสินค้ากลุ่มเสื้อยืด รองเท้า ถุงผ้า และของที่ระลึก”
SureColor SC-G6030 เครื่องพิมพ์ระบบ DTFilm รุ่นแรกของบริษัทในกลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอ เพื่อตอบรับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระบบ DTFilm ในตลาด เครื่องพิมพ์ SC-G6030 มีจุดเด่นที่การใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP ที่มี Nozzle Verification Technology ช่วยลดปัญหาหัวพิมพ์อุดตันและลดเวลาหยุดทำงาน และด้วยขนาดหน้ากว้าง 35.4 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับจัดวางงานออกแบบต่อม้วนฟิล์ม รองรับงานกราฟิกขนาดใหญ่ได้อย่างคล่องตัว จึงเปิดโอกาสใหม่ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการ แบรนด์แฟชั่น นักออกแบบที่เน้นงานเฉพาะตัว หรือแม้แต่โรงพิมพ์ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการผลิตแบบสั่งทำเฉพาะ (on-demand)

เครื่องรุ่นนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ปริมาณมาก โดยไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง มีระบบหมุนเวียนหมึกขาวอัตโนมัติ เพื่อคงคุณภาพการพิมพ์ให้เสถียรและสม่ำเสมอ ทั้งยังมีโหมดการพิมพ์ที่หลากหลาย ทั้งเสื้อยืด เสื้อกีฬา และถุงผ้า นอกจากนี้ SC-G6030 ยังมีระบบใบปัดทำความสะอาดผ้า (Fabric Wiper System) และแพ็คหมึกขนาด 1.6 ลิตร ช่วยลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึกและทำความสะอาด และฟังก์ชัน Cutter Timer ในตัวที่ช่วยป้อง กันความผิดพลาดในการจัดวางฟิล์ม เพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์งานทุกชิ้น อีกหนึ่งจุดเด่นของ SC-G6030 ก็คือตัวเครื่องที่มีขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่เพียง 1.2 ตารางเมตร และยังใช้หมึก UltraChrome DF ที่ให้สีสันสดใส คมชัด ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผ่านการรับรองจาก OEKO-TEX และ GOTS มาตรฐานระดับโลกด้านสิ่งทอปลอดสารพิษ
“ปัจจุบัน ผู้ให้บริการงานพิมพ์ ผู้ผลิตป้ายโฆษณา รวมถึงนักออกแบบ ต่างมองหาโซลูชันที่มากกว่าแค่เครื่องพิมพ์ แต่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต เครื่องพิมพ์กลุ่ม SureColor ของเอปสัน

ทั้งในกลุ่มงานพิมพ์ป้ายและสิ่งทอ จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีทางเลือกครบกับทุกความต้องของลูกค้ายุคใหม่ ทั้งในด้านประเภทแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับงานออกแบบที่ไม่จำกัด ช่วยให้ลูกค้าสามารถผลิตงานตามออเดอร์ขนาดเล็กได้อย่างคุ้มค่า พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ช่วยลดต้นทุนแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีทักษะสูงในการควบคุมเครื่อง ทั้งยังมีรอบการผลิตที่รวดเร็ว ตอบสนองตลาดได้ทันเวลา และที่สำคัญ เครื่องพิมพ์ของเอปสันยังออกแบบมาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในแง่ของการใช้พลังงานอย่างมี

ประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเลือกใช้หมึกที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ คว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมแลสิ่งแวดล้อม” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับเอปสัน
เอปสันคือบริษัทผู้นำเทคโนโลยีผู้เป็นเจ้าขององค์ความรู้แห่งนวัตกรรม ที่ผสานทั้งประสิทธิภาพ ขนาดกะทัดรัด และความแม่นยำสูงเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์โลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นทางสังคม ผ่านนวัตกรรมต่างๆ ที่ครอบคลุมด้านการพิมพ์ภายในบ้านและสำนักงาน การพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม นวัตกรรมที่ใช้ในกระบวนการผลิต การฉายภาพ และเทคโนโลยีเพื่อไลฟ์สไตล์ของผู้คน ภายในปี 2593 เอปสันจะก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนดำเนินธุรกิจที่มีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ติดลบ (Carbon Negative) และยกเลิกการใช้ทรัพยากรใต้ดินที่ใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำมัน โลหะ โดยสิ้นเชิง ภายใต้การนำของไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เอปสัน กรุ๊ป ทั่วโลกสามารถสร้างยอดขายต่อปีรวมได้ถึง 1 ล้าน ๆ เยน
http://global.epson.com

เกี่ยวกับเอปสัน สิงคโปร์
ตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมา เอปสันได้เข้าไปมีบทบาทในตลาดสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค คือเอปสัน สิงคโปร์ ซึ่งต่อมาได้ขยายขอบเขตการดูแลพื้นที่ออกไปครอบคลุม 11 ประเทศ โดยรับผิดชอบด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อันทันสมัยของเอปสันให้แก่ลูกค้าองค์กรและบุคคลทั่วไป ควบคู่กับการให้การสนับสนุนลูกค้าทางด้านต่างๆ ผ่านเครือข่ายที่สมบูรณ์พร้อมของบริษัทฯ อันประกอบด้วยศูนย์บริการ 500 แห่ง โซลูชั่นเซ็นเตอร์ 7 แห่ง และโรงงานผลิต 7 แห่ง
http://www.epson.com.sg

เกี่ยวกับเอปสัน ประเทศไทย
บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในเดือนตุลาคม 2533 โดยครอบคลุมการบริหารตลาดประเทศไทย กลุ่มประเทศ CLM และปากีสถาน ปัจจุบันเอปสัน ประเทศไทยมีพนักงาน 154 คน ศูนย์บริการ 182 ศูนย์ และเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย 170 แห่งทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์เอปสันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำตลาดสินค้าไอที มีความทนทาน และฟังก์ชั่นการทำงานที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจและลูกค้าองค์กร ทั้งพรินเตอร์ความเร็วสูง ที่มีเทคโนโลยี PrecisionCore และ Heat-Free และพรินเตอร์รุ่นประหยัด Epson EcoTank รวมถึง เอปสัน เลเซอร์ โปรเจคเตอร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3LCD ลิขสิทธิ์ของเอปสันได้เจาะตลาดประเทศ ไทย และขยายสัดส่วนการตลาด ควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทฯ ยังคงคุณภาพมาตรฐานอันดีเยี่ยมของสินค้าและการบริการเหนือระดับ เอปสันจะยังคงคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
http://www.epson.co.th