สสปท.ห่วงความปลอดภัยแรงงานก่อสร้าง หวั่นซ้ำรอยพระรามสอง หลังเหตุเครนพลิกคว่ำ ย้ำ 3 มาตรการป้องกัน ตรวจสอบความปลอดภัยเครื่องกลหนัก เครน -รถยก เพิ่มแสงสว่างในกรณีทำงานกลางคืน และ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเบี่ยงเส้นทางในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้าง หรือมีการใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่ในการทำงาน
จากเหตุการณ์รถเครนที่กำลังก่อสร้าง ในโครงการทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้าบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ช่องทางหลัก ช่วง กม.26+500 ก่อนถึงห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มหาชัย ล้มลงมายังช่องทางคู่ขนาน ขณะกำลังยกแท่งเหล็กขึ้นไปติดตั้งที่เสาตอม่อทางยกระดับ โดยมีพนักงานขับรถเครนติดอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีรถกะบะของประชาชนที่สัญจรผ่าน ได้รับความเสียจากชิ้นส่วนเหล็กที่หล่นทับ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ตามข่าวที่ได้มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ดร.นันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม 1/ในการทำงาน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทธาหรณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความจำเป็นในการปฏิบัติงานก่อสร้างอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น อย่างถนนพระราม 2 ซึ่งจากสถิติพบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ถนนพระราม 2 เป็นหนึ่งในเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดของประเทศ โดยเกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยสูงถึง 120 ครั้งต่อปี ทั้งจากการก่อสร้างและการสัญจรของประชาชน
ผู้อำนวยการ สสปท. กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ต้องระวังให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง อย่างน้อยในเบื้องต้น ควรคำนึงถึงมาตรการหลักๆ 3 มาตรการ คือ
1.การตรวจสอบเครื่องจักรกลหนัก เช่น เครน รถยกและอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากต้องมีการบำรุงรักษา ตรวจสอบความพร้อมก่อนใช้งานทุกครั้ง ต้องมีวิศวกรควบคุมดูแล มีการกั้นเขดพื้นที่ก่อสร้างที่ชัดเจนและรัดกุม เพื่อไม่ให้ประชาชน หรือยานพาหนะเข้าใกล้ในระยะที่เสี่ยงต่ออันตราย
2.หากเป็นการทำงานในเวลากลางคืน ต้องมีระบบไฟส่องสว่างและสัญญาณเตือนที่เพียงพอ รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลครบถ้วน
3.ควรมีการวางแผนการจราจรที่ดี ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด เพื่อจัดการเส้นทางเบี่ยงหรือปิดการจราจรในช่วงเวลาที่เสี่ยง

ทั้งนี้ความปลอดภัยของแรงงานและประชาชน คือสิ่งสำคัญที่สุด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างต้องตระหนัก และร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำ” ดร.นันทชัย เน้นย้ำในตอนท้ายพร้อมกับให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุ สสปท.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ความเสี่ยง เพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนในการออกแบบกิจกรรม คู่มือ และมาตรฐานที่เหมาะสมในการนำไปใช้เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอยต่อไป