สจล. จัดงานสถาปนา “ก้าวสู่ปีที่ 66” จุดประกายนวัตกรรมอนาคต ผ่าน ‘ลาดกระบังนิทรรศน์ 69’ เวทีโชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอนาคต สู่การขับเคลื่อนสังคมไทย

0
15

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนา “ก้าวสู่ปีที่ 66” ตอกย้ำความก้าวหน้าตลอด 65 ปีที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และมุ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสู่สังคมไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในโอกาสนี้ยังได้ประกาศเตรียมจัดงาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ในปี 2569 เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานนวัตกรรมแห่งอนาคตและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สัมผัสงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งงานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24- 30 สิงหาคม 2569 ณ สจล.

การจัดงานสถาปนา “ก้าวสู่ปีที่ 66” ประกอบด้วย พิธีสักการะพระนิรันตรายและพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พิธีทำบุญตักบาตร พิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช การจัดงานสถาปนาครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จของสถาบันตลอดกว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมาและเป็นการประกาศความมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปในฐานะผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวถึงทิศทางนโยบายและวิสัยทัศน์ในปี 2569 ว่า สถาบันมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการก้าวสู่การเป็น Smart University ในทุกมิติ โดยเน้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามายกระดับการเรียนการสอน การวิจัย และการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งเน้นการสร้างมหาวิทยาลัยที่ปลอดภัย ด้วย เทคโนโลยี SMART GATE, SMART POLE, SMART PARK ควบคุมด้วยระบบห้องปฏิบัติการอัจฉริยะของสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ(Smart City innovative Research Academy = SCiRA) ดำเนินการภายใต้ สจล.

โดย สร้างระบบ DIGITAL TWIN จำลองการใช้พลังงาน การเดินทาง และการรับบริการต่างๆ ในมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการได้อย่างดีที่สุด ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ดำเนินการในรูปแบบนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม สจล. มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ 50% ภายในปี ค.ศ.2028 พร้อมเดินหน้าสู่การบรรลุ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050

รวมทั้ง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG ขององค์การสหประชาชาติ และบรรลุวิสัยทัศน์ของสจล.ในการเป็น “The World Master of Innovation” ด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานสะอาด และการปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานและการใช้ทรัพยากรของบุคลากรและนักศึกษาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

นอกจากนี้ แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนจะถูกบูรณาการเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Entrepreneurship) ที่มีคุณภาพและมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม สามารถสร้างธุรกิจและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเศรษฐกิจและความยั่งยืนของโลก ขณะเดียวกันบุคลากรของสถาบันจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและเป็นแบบอย่างในการลดการปล่อยคาร์บอน ต่อยอดสู่การสร้างมหาวิทยาลัยต้นแบบด้านนวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล.กล่าวถึงจุดประสงค์การจัดงาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ด้วยว่า เพื่อเปิดพื้นที่แสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของคนไทย ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ และภาครัฐ กระตุ้นการลงทุนและการพัฒนาผลงานที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ตลอดจนปลูกฝังแนวคิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืนให้กับเยาวชนและสังคมไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งเวทีระดับประเทศที่นำเสนอผลงานนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่างครบวงจร ตั้งแต่งานวิจัยเชิงวิชาการ เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ ผลงานสร้างสรรค์จากนักศึกษา ไปจนถึงนวัตกรรมที่พร้อมต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์จริงทั้งในภาคอุตสาหกรรมและสังคม

งาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24- 30 สิงหาคม 2569 ณ สจล. จะเปิดโอกาสให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการ นักลงทุน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทดลองสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนบทบาทของ สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้แรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ในการสร้างอนาคตด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

โดยจัดกิจกรรม“KMITL Future Innovation 2025” ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ เช่น การประกวดนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 13/2568 การแข่งขัน Sustainnovation Pitch 2025 และการแข่งขันแนวคิดนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต (Pitching) ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร”

ซึ่งจัดร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และส่งเสริมการใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ซึ่งงานในครั้งนี้มีนักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,200 คน โดยแบ่งเป็น 4 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย KrungsriUniVerse X KMITL HACKATHON 2025 การประกวดปลุกพลังความคิด พิชิตบัญชีม้า มีผู้สมัคร 61 ทีม, การประกวดนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีระดับประเทศครั้งที่ 13 มีผู้สมัคร 300 ทีม, การประกวดแข่งขันแนวคิดนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต มีผู้สมัคร 370 ทีม, โครงการประกวดกิจกรรม Sustainnovation Pitch 2025 มีผู้สมัคร 13 ทีม

ผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ สจล. ได้ทาง Facebook Page KMITL
ได้ที่ลิงค์นี้
https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ทางการของสถาบัน http://www.kmitl.ac.th