วันที่ 14 ตุลาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับจังหวัดสงขลาและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทย น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน.

โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี กล่าวเปิดงานและร่วมลงนาม พร้อมด้วย นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร วช. เข้าร่วม ซึ่งมี นายธราวุธ ช่วยเกิด รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จากจังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุงกว่า 15 หน่วยงาน เข้าร่วมลงนามและร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว ณ โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนและบริหารจัดการเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ในประเด็น “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” (ซึ่งเป็นต้นแบบและแผนที่ภูมิภาค) โดยการนำองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมพร้อมใช้ไปหนุนเสริมและบูรณาการร่วมกับกลไกการปฏิบัติของหน่วยงานในพื้นที่ มีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3 เป้าหมาย คือ 1) น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง (100 ตำบล ใน 10 จังหวัด) 2) ประชาชน รอดจากน้ำท่วม น้ำแล้ง ลดลง 120,000 ครัวเรือน และ 3) มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายจากภาครัฐ 900 ล้านบาท
จังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง เป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญเป็น sandbox ในการบริหารเพื่อความมั่นคงทางน้ำตามเป้าหมายที่ผ่านมา วช. ได้จัดกิจกรรมกับภาคีความร่วมมือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา และน่าน เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่ วช. พร้อมรับประเด็นที่เป็นความต้องการและปัญหามาตอบโจทย์ตามบริบทของพื้นที่ และประเด็นท้าทายต่อแนวทางการบริหารจัดการน้ำสู่ความมั่นคง การรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้ง การรุกล้ำของน้ำเค็ม โดยใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พร้อมใช้ได้จริงทั้งในเชิงของการต่อยอดหรือประยุกต์สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่จากการเสวนาร่วมกับทุกจังหวัดที่ผ่านมา วช. ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่ ซึ่งเห็นถึงสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำที่สำคัญ เช่น การบริหารจัดการน้ำเพื่อความมั่นคง กลไกการบริหารจัดการร่วมกับภูมิปัญญา ชุมชน และองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความชัดเจนของบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสร้างทรัพยากรมนุษย์ บุคลากรท้องถิ่น ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และ ประชาชน ให้เข้าถึงและเข้าใจองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นกลไกถาวรในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วช. พร้อมร่วมมือกับทุกภาคีเครือข่าย เพื่อ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” สร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”
ถัดมาเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วช. กับหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่ จังหวัดสงขลา และร่วมแสดงเจตนารมณ์ ได้แก่
- นางสาวนิชลีย์ ธีรเดช สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)
- นายยุทธพล วรรณโก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 4 ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
- นายสมเกียรติ อำนวยสุวรรณ สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
- นายสมโชติ พุทธชาติ มูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศ - รศ.ดร.ฉัตรไชย รัตนไชย จังหวัดสงขลา (ผู้จัดการศูนย์บริหารงาน)
- นายกิตติพงศ์ สิงห์ทอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
- นายวิโรจน์ เอี่ยมสุวรรณ สภาเกษตรกรจังหวัดสงขลา ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสงขลา
- นายบุญโชค ชั่งสิริพร สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา
- นายศิวัตน์ สุวรรณวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา
- นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา
- นางสาวปภัสราภรณ์ ตันธนวงศ์ ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดสงขลา
- นายชาคริต โภชะเรือง ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนสงขลา
มีการจัดหารือแนวทางการทำงานร่วมกันภายใต้หัวข้อ “การขับเคลื่อนมุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อพื้นที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ และผู้บริหารระดับสูงของ วช. เพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วช. กับภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุงมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กรท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมเป็นสักขีพยานและเป็นเกียรติในพิธีครั้งนี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยการใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่อย่างครอบคลุมและต่อเนื่องและยั่งยืน