ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมสนับสนุนนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้านการแก้หนี้ประชาชน ผ่าน 6 มาตรการสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL
ที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ได้รับความช่วยเหลือนานสูงสุด 2 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียน
แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. พร้อมสนับสนุนนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้านการแก้หนี้ประชาชน โดยเฉพาะการแก้หนี้เสียภาคครัวเรือน (NPL) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด้าน นโยบายหลักในการเร่งขับเคลื่อนประเทศ โดยในส่วนของ ธอส. ได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้
ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือแล้วมากกว่า 233,916 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 263,601 ล้านบาท โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือได้ ดังนี้
1.มาตรการภาคครัวเรือน “HD1” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 – 3 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 4 – 6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท และเดือนที่ 7 – 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไป ตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
2.มาตรการภาคครัวเรือน “HD2” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1- 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท เดือนที่ 4 – 6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท และเดือนที่ 7 – 12 ผ่อนชำระเงินงวด คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% +100 บาท (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.245% ต่อปี) กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
3.มาตรการช่วยเหลือ “DC1” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ลูกค้าสถานะ NPL และลูกค้าสถานะมีโจทก์นอก ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี สามารถผ่อนชำระเงินงวดที่คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยที่ 3.55% ต่อปี และ +100 บาท เป็นระยะเวลา 2 ปี กรณีลูกค้าชำระเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ย
ค้างชำระ (หากมี)
4.มาตรการช่วยเหลือ “DC2” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL และลูกค้าสถานะมีโจทก์นอก ที่กู้เงิน กับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 4 เดือนแรก 0% ต่อปี โดยผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาทต่อเดือน เดือนที่ 5 – 8 ผ่อนชำระเงินงวดที่คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยที่ 1.90% เพียง 50% และ +100 บาท และเดือนที่ 9 – 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยที่ 3.90% เพียง 50% และ +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี) ทั้งนี้ ดอกเบี้ย 50% ของงวดที่ 5 – 12 ธนาคารจะนำไปตั้งพักชำระไว้ และเมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข ลูกค้าจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย เฉพาะดอกเบี้ยส่วนต่างมาตรการเท่านั้น
- มาตรการช่วยเหลือ “M24” สำหรับกลุ่มลูกค้า SM และ NPL ลูกค้ารายย่อย ลูกค้าสวัสดิการ ลูกค้าประเภทแฟลต หรือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจไทยระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 – 12 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท
กรณีลูกค้าชำระเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี) - มาตรการ M17 ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีสถานะ NPL หรือลูกหนี้ที่ยังมีสถานะเป็น NPL
ที่อยู่ระหว่างใช้มาตรการ/ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร โดยลูกค้าจะต้องกู้เงินจากธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 – 3 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 4 – 6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.99% +100 บาท และเดือนที่ 7 – 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้ธนาคารจะนำไป ตัดดอกเบี้ยค้างชำระ(หากมี)
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานด้านการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ ธอส. ได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สถาบันการเงินและหน่วยงานภาคีความร่วมมือกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ประจำปี 2568 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ครบรอบปีที่ 23 ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ประสานความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อาทิ การดำเนินกิจกรรมมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 สะท้อนการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ตระหนักถึงความสำคัญต่อการช่วยเหลือและแก้หนี้ให้กับลูกค้าเพื่อรักษาบ้านให้คนไทย
สำหรับลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทาง Application GHB ALL BFRIEND โดยลูกค้าจะต้อง Upload หลักฐานยืนยันการได้รับผลกระทบทางรายได้เพื่อให้ธนาคารพิจารณาด้วย ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th