ถนนทรุดตัวรุนแรงพื้นที่ใจกลาง กทม. สจล. ห่วงอาคารข้างเคียงเสี่ยงพัง แนะอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน จากเหตุการณ์ถนนทรุดตัวรุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียงโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และสถานีตำรวจนครบาลสามเสน (สน.สามเสน) นั้น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว แนะประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ควรอพยพเพื่อความปลอดภัย

รองศาสตราจารย์ ดร. คมสัน มาลีศรี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งการทรุดตัวครั้งนี้เป็นการถล่มของชั้นดินที่ค่อนข้างลึก ส่งผลให้อาคารที่อยู่ข้างเคียงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากดินที่เคยหุ้มเสาเข็มได้ไหลลงไปในหลุมขนาดใหญ่ ทำให้แรงต้านทานที่พยุงเสาเข็มนั้นลดลงไปมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เสาเข็มเอียงตัว และทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักของอาคารลดลงไปด้วย สจล.ในฐานะสถาบันการศึกษา ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา เรามีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่เกิดการทรุดตัวรุนแรงของดินในพื้นที่เขตดุสิต บริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ทั้งนี้ สจล. พร้อมให้ความร่วมมือ และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา
รองศาสตราจารย์ สุพจน์ ศรีนิล รองอธิการบดีฝ่ายกายภาพและสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศกรรมโยธา สจล. กล่าวว่า ตามหลักวิศวกรรม ค่าความปลอดภัย (Factor of Safety) ของอาคารที่ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่าแต่ในสถานการณ์เช่นนี้อาจลดลงเหลือเพียง 1 กว่าๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงหากอาคารตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ดินถล่มอาจเกิดการทรุดตัวหรือพังถล่มได้ และอาคารบ้านเรือนของชาวบ้านที่สร้างมานานกว่า 40 ปี มักจะอยู่บนเสาเข็มสั้นประมาณ 6-8 เมตร จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายสูงกว่าอาคารสูงที่มีเสาเข็มลึกตั้งแต่ 25 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามแบบการก่อสร้างตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับมาตรการป้องกันความเสียหายในเบื้องต้นนี้ควรเร่งดำเนินการปิดช่องรอยต่ออุโมงค์ที่เชื่อมกับสถานีไม่ให้ดินสไลด์เพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในขณะนี้ นอกจากนี้ยังต้องป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลลงไปในบริเวณดังกล่าว และไม่ควรเข้าไปในสถานที่เพราะแรงสั่นสะเทือนจะทำให้กำลังของดินลดลงและเกิดการเคลื่อนตัวได้อีก ซึ่งการทำให้ดินมีความเสถียรและอาคารไม่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน สำหรับอาคารที่ได้รับความเสียหายรุนแรงหรือมีเสาเข็มเอียง ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการรื้อและสร้างใหม่อาจจะเป็นการประหยัดเวลา และประหยัดงบประมาณมากว่าการซ่อมแซม แต่ทั้งนี้ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป และข้อแนะนำด้านความปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้ที่อยู่อาศัยในรัศมีที่ถือว่าไม่ปลอดภัยคือประมาณ 60 เมตร จากขอบถนน ขอบหลุมที่ทรุดตัวควรพิจารณาอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน
สำหรับข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของ สจล. สามารถติดตามได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000