คปภ. – กรมการขนส่งทางบก ร่วมหารือแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ อำนวยความสะดวกการเรียกร้องค่าสินไหมรถยนต์ให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือรวดเร็วและเป็นธรรม

0
7


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดย นายไพบูลย์ เปี่ยมเมตตา ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย พร้อมคณะผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย เข้าร่วมประชุมหารือกับ กรมการขนส่งทางบก โดยมี นายชีพ น้อมเศียร รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ เป็นประธานการประชุม เพื่อกำหนดแนวทางบูรณาการในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ การหารือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดภาระประชาชน อำนวยความสะดวกด้านเอกสาร และเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหม ให้เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์อย่างโปร่งใส เที่ยงธรรม และทันสถานการณ์ โดยสรุปแนวปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

  1. แนวทางดำเนินการกรณีรถยนต์เสียหายทั้งคัน หรือเป็นความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) จากสถานการณ์น้ำท่วมที่มีระดับน้ำสูงและส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงคาดว่าจะมีรถยนต์ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจำเป็นต้องใช้คู่มือจดทะเบียนรถประกอบการยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แต่ในหลายกรณีเอกสารดังกล่าว ถูกน้ำท่วม สูญหาย หรือไม่สามารถกู้คืนได้ กรมการขนส่งทางบก จึงแจ้งแนวทางอำนวยความสะดวกว่า ผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อสำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถได้จดทะเบียนไว้เพื่อขอคัดสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถได้โดยใช้เพียงบัตรประชาชนเท่านั้น ทั้งนี้ ธุรกิจประกันภัยได้จัดให้มีช่องทางช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ โดยสามารถประสานบริษัทประกันภัยเพื่อมอบอำนาจและจัดเตรียมสำเนาเอกสารที่มีอยู่ให้บริษัทดำเนินการแทน ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณา จ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
  2. แนวทางดำเนินการกรณีรถยนต์เสียหายบางส่วน (Partial Loss) ในกรณีรถยนต์ได้รับความเสียหายบางส่วน (Partial Loss) บริษัทประกันภัยจะเร่งประเมินความเสียหายเบื้องต้นตามกระบวนการพิจารณาสินไหมทดแทนปกติ โดยใช้ข้อมูลระดับความสูงของน้ำและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบต่าง ๆ ของรถเป็นองค์ประกอบสำคัญในการประเมิน หากเห็นว่าสามารถซ่อมแซมได้ บริษัทจะประสานส่งรถไปยังศูนย์ซ่อมหรืออู่บริการที่ได้มาตรฐานทันที เพื่อให้รถกลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้บริษัทประกันภัยเร่งรัดขั้นตอนการตรวจสอบความเสียหาย กำหนดระยะเวลาการซ่อมที่เหมาะสม และพิจารณาผ่อนผันการใช้เอกสารบางรายการในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยและยังไม่สามารถจัดหาเอกสารได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านการเข้าถึงพื้นที่
    สำนักงาน คปภ. และกรมการขนส่งทางบกย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นมาตรการเร่งด่วนในช่วงสถานการณ์วิกฤติ โดยทั้งสองหน่วยงานจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน อย่างเต็มที่ทั้งด้านข้อมูล การคัดสำเนาเอกสาร และการประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมที่สุด ประชาชนที่ต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือด้านประกันภัยสามารถติดต่อสายด่วน คปภ. 1186 ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยของตนเองได้ผ่าน LINE Official Account: @OICconnect