คณะเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store พร้อมต่อยอดธุรกิจ ในพื้นที่ภูมิลำเนา ขับเคลื่อนเศษฐกิจที่บ้านเกิด จุดประกายพลังเยาวชนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

0
14

เมื่อวันจันทร์ 3 ตุลาคม 2568 คณะเยาวชน โครงการ “ สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 จากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 320 คน ได้แก่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส สตูล ยะลา และสงขลา ได้เข้าเยี่ยมชมและเรียนรู้ศึกษาแนวทางขับเคลื่อนชุมชน ผ่านนิทรรศการแห่งความยั่งยืน Sustainability Expo 2025 จัดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดตัวเอง

ภายในงานน้องๆ ได้พบกับนิทรรศการความยั่งยืนจากหน่วยงานชั้นนำของประเทศ พร้อมเรียนรู้แนวทางการดำเนินการ Repartment Store เพื่อสร้างคุณค่าให้กับ “สิ่งของของนอกสายตา” เพื่อส่งต่อสิ่งของที่เราไม่ได้ใช้แล้ว ส่งต่อผู้ที่ยังต้องการสิ่งของนั้น ทำให้เกิดระบบหมุนเวียนทรัพยากรที่ทรงคุณค่า และก่อให้ประโยชน์กับทุกคนทั้งผู้ให้และผู้รับ ซึ่งสามารถนำของเหล่านั้นกลับมาใช้ประโยชน์ต่อได้ และยังเป็นการลดปริมาณของเหลือทิ้งให้กับโลก อีกทั้งยังได้รับความรู้ ประสบการณ์ และการสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นทำธุรกิจจากนักศึกษา โครงการ Beta Young Entrepreneur มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ได้มาแบ่งปันเรื่องราวการทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งในระหว่างทางมีการพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดจนสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ เพื่อประโยชน์ให้น้องๆ นำกลับไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขาธิการ มูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้กล่าวถึงโครงการนี้ ว่า


“โครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นดำริของท่าน พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ โครงการนี้เกิดขึ้นมา ก็เพื่อที่จะนำเยาวชน อายุ 15-19 ปี ขึ้นมาเรียนรู้เรื่อง พหุวัฒนธรรมให้มาได้ทัศนศึกษาได้มาเข้าค่าย ได้ประสบการณ์ ทักษะการอยู่ร่วมกันของคนที่ต่างศาสนาเป็นคนไทยด้วยกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ เขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และคอยเกื้อกูลสนับสนุนกันได้อย่างดี ซึ่งก็จะเป็นประสบการณ์นำกลับไปพัฒนาภูมิลำเนาของเขา วัตถุประสงค์ของการที่นำพาน้องๆ มาเรียนรู้ในงาน SX2025 จะได้รับประโยชน์มากเลยครับ เพราะเรื่องความยั่งยืน เป็นเรื่องของการที่จะให้เรียนรู้ว่า ทำอย่างไรที่จะรู้จักเรื่องของ ความพอเพียง ทำอย่างไรที่จะรู้ว่า สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรานั้นสามารถที่จะทำอย่างไรในการช่วยกันดูแล เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมีความสมดุล ยั่งยืน ก่อให้เกิดความรู้ เกิดความตระหนัก ในเรื่องของการที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ในทุกมิติ สำหรับกิจกรรมมีการบรรยายจากนักศึกษาโครงการ Beta Young ที่จะมาร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับน้องๆเกี่ยวกับการทำมาค้าขาย ซึ่งเด็กก็ได้รับความรู้และนำไปต่อยอด รวมถึงเรื่องของ Repartment Store ซึ่งในปีที่ผ่านมาน้อง ๆ ในโครงการได้นำความรู้และแนวคิดของไปดำเนินการที่โรงเรียนของตนเอง โดยเด็กๆได้ไปรวมตัวกันทำกิจกรรม และประสบความสำเร็จ พวกเราก็ส่งของที่เราไม่ได้ใช้แล้วไปให้ พวกเขาก็ไปดำเนินการตามหลักการ Repartment Store ได้เงินกลับมาก็เอาไปซื้อพวกสิ่งของ เช่น ผ้าอ้อม ไปให้ผู้ป่วยติดเตียง ดำเนินกิจการสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่นับถือพุทธ นับถือคริสต์ นับถืออิสลามก็ทำด้วยกัน อันนี้คือเป็นสิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้ ได้นำความรู้ ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ สิ่งสำคัญได้ทำงานร่วมกัน ไม่มีความรู้สึกแตกแยกต่อไปครับ”

คราวนี้เรามาฟังเสียงของน้องๆจากปักษ์ใต้ในการเยี่ยมชมงานฯครั้งนี้ นางสาวอัลมาติน เหมเภอ โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ จังหวัดสงขลา ได้บอกกล่าวความรู้สึกกับทีมงานว่า

“ ยอมรับว่า การเดินทางครั้งนี้พวกเราเหนื่อยมากคะ แต่ด้วยโอกาสที่ได้รับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับน้องมากคะ ตื่นเต้นแต่พอมาดูงานทำให้เราเห็นโลกทัศน์ และพี่ๆทางกรุงเทพดูแลเราเป็นอย่างดี ทำให้เรากล้าที่จะแสดงออก กล้าถาม เจาะลึกและได้คำตอบที่เป็นประโยชน์มาก ได้ความรู้และประสบการณ์ที่ดี รู้สึกตื้นตันใจ กลับไปใต้น้องก็จะนำความรู้ไปต่อยอดกับครอบครัวและชุมชนที่น้องอยู่ โดยเฉพาะการนำของที่ไม่ใช้แล้วไปต่อยอดในทางสร้างสรรค์เป็นประโยชน์เช่นเสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น ที่ไม่ใช้แล้ว นำไปขายเป็นของมือสอง หรือบริจาคให้กับส่วนอื่นๆ เป็นการลดสิ่งของในบ้านสร้างความเป็นระเบียบให้กับครอบครัวอีกด้วยคะ “ น้องอัลมาติน เหมเภอ สาวสงขลา กล่าว

อีกหนึ่งคนที่จะพลาดไม่ได้กับแนวคิดของหนุ่มใต้ นาย วรัญญู ขวัญจุล โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่ได้แนวคิดจาก นางสาว ศยามล หมุกแก้ว Beta Young Entrepreneur รุ่นที่12 ปี3 คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการทำธุรกิจเปิดร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยในขณะที่เรียนอยู่

“ ผมต้องขอขอบคุณ พี่ศยามลที่ได้มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผม ในเรื่องการทำธุรกิจขายกาแฟ พี่เขาให้คำแนะนำดีมาก พูดถึงจุดเริ่มต้น อุปสรรค การปรับตัวในการทำธุรกิจ การทำบัญชี การพัฒนาสูตร ทำการตลาดอย่างสร้างสรรค์ สำหรับผมรู้สึกตรงใจมาก คิดว่าหากทำขายที่บ้านน่าจะขายดีพอสมควรเพราะทางใต้จะชอบกินกาแฟมาก คงเริ่มจากเปิดเป็นร้านเล็กๆ ขายในราคาไม่แพง คงจะช่วยกันทำในครอบครัว อีกอย่างผงกาแฟรสชาดอร่อยๆก็หาได้ไม่ยากในปัตตานี ผมอยากให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่ม และอยากมีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเองครับ “ คำกล่าวหนุ่มใต้ที่เต็มไปด้วยพลัง
ปัจจุบันเยาวชนที่ผ่านโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” มีจำนวนกว่าหมื่นคน กระจายอยู่ตามสาขาอาชีพต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน และได้จัดตั้งเป็นสมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ ทำกิจกรรมร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่แสดงถึงการพัฒนา การสร้างเครือข่าย ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป