ภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ” ของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงพื้นที่เชิงรุกและบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสวัสดิการและความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติ การเคหะแห่งชาติจึงได้เร่งดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวอย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง

สถานการณ์อุทกภัยครั้งล่าสุดในจังหวัดสงขลา เกิดจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้หลายชุมชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนจากภาครัฐ
จากอิทธิพลของฝนตกหนักระหว่างวันที่ 22 และ 23 พฤศจิกายน 2568 หลายอำเภอในจังหวัดสงขลาประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน ระดับน้ำในหลายพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งต้องระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือโดยทันที

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า อุทกภัยครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อโครงการเคหะของการเคหะแห่งชาติในจังหวัดสงขลา 2 แห่ง ได้แก่ โครงการหาดใหญ่ระยะ 1, 3, 4 และ โครงการหาดใหญ่น้ำน้อย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม
ในส่วนของ โครงการหาดใหญ่ระยะ 1, 3, 4 ซึ่งมีจำนวนหน่วยรวม 861 หน่วย พบว่าพื้นที่โดยรอบโครงการมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้การสัญจรเข้า–ออกเป็นไปอย่างยากลำบากและต้องใช้เรือของหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการเข้าถึงพื้นที่ ขณะเดียวกัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตัดกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ช่วงกลางวันเพื่อความปลอดภัย ภายในโครงการยังมีกลุ่มเปราะบางเป็นผู้พิการจำนวน 22 ราย ซึ่งได้รับการดูแลจาก อสม. ในพื้นที่ นอกจากนี้น้ำยังได้เอ่อเข้าบริเวณสำนักงานเคหะจังหวัดสงขลา ทำให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้ตามปกติ

ส่วน โครงการหาดใหญ่น้ำน้อย ซึ่งมีจำนวนหน่วยทั้งหมด 872 หน่วย อยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้ทางเข้าโครงการถูกน้ำท่วมและไม่สามารถสัญจรเข้า–ออกได้ น้ำได้ไหลเข้าบ้านเรือนตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีรายงานจาก อสม. ว่ามีกลุ่มเปราะบางจำนวน 12 ราย ที่ต้องได้รับการติดตามดูแลเป็นพิเศษ
ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติระบุว่า เจ้าหน้าที่การเคหะแห่งชาติได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น โดยได้จัดเตรียมและนำ อาหารปรุงสุก น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นทั้งอุปโภคและบริโภค ไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในหลายจุดของพื้นที่ โดยเน้นการกระจายความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้มอบหมายให้ ผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติร่วมกับคณะกรรมการชุมชน ลงพื้นที่ส่งมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนตามความต้องการเร่งด่วนของแต่ละพื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้ประสาน อสม. เพื่อเยี่ยมติดตามดูแลกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมมาตรการรองรับเพิ่มเติมหากระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น
นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในช่วงสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ โดยจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง เพื่อให้ทุกครอบครัวได้รับการดูแลและสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างปลอดภัย”























