
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยความสำเร็จการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV ในทารก ยังคงธำรงรักษาอัตราการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกอยู่ในระดับต่ำได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสนับสนุน การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV-1 ในทารกที่คลอดจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ในประเทศไทย “ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต” สู่เป้าหมาย “สิ้นสุดเอดส์ ปี 2573”

ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับการควบคุมและป้องกันโรคเอดส์ สร้างเข้าใจ ให้การยอมรับและอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ตีตรา
ทั้งนี้ นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้เด็กที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีทุกราย ต้องตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งมีห้องปฏิบัติการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 15 แห่ง สามารถตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV-1 ในทารกที่คลอดจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ ด้วยวิธี PCR ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการวินิจฉัยการติดเชื้อในเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 เดือน เทคนิควิธีนี้มีความไวและความแม่นยำสูง สามารถตรวจพบเชื้อได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เด็กได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ส่งผลต่อการลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กที่ติดเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2568 มีหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ 3,500 ราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยเด็กแรกเกิดจากแม่ที่ติดเชื้อ พบทารกที่ติดเชื้อ จำนวน 40 ราย (คิดเป็นอัตราการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกร้อยละ 1.14)
ประเทศไทยมีความสำเร็จในการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างเครือข่ายห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการดำเนินงานเชิงรุกภายใต้ระบบ Active Case Management (ACC) ที่ช่วยให้สามารถติดตามทารกกลุ่มเสี่ยงได้รับการวินิจฉัยยืนยัน และนำเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า ประเทศไทยยังคงธำรงรักษาความสำเร็จในการลดอัตราการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการถ่ายทอดเชื้ออยู่ที่ ร้อยละ 1.46 ซึ่งประเทศไทยได้รับการรับรองจาก WHO เมื่อปี พ.ศ. 2559 ที่สามารถยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ เนื่องจากมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกต่ำกว่าร้อยละ 2 นับเป็นประเทศแรกในเอเชียและเป็นประเทศที่สองของโลก
ดร.นพ.สราวุฒิ กล่าวย้ำว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบบริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย “สิ้นสุดเอดส์ ปี 2573” อย่างยั่งยืน
























