กรมควบคุมโรค ขยายโครงการใช้ระบบทะเบียนข้อมูลชีวภาพชีวภาพ (Biometrics) เพื่อยืนยันตัวตนแรงงานข้ามชาติ ช่วยยกระดับความแม่นยำในการควบคุมป้องกันโรค และจัดการข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ


วันนี้ (16 ตุลาคม 2568 ) นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่เขตเมืองของประเทศไทย มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในด้านประชากร เศรษฐกิจ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ และภัยสุขภาพต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองขนาดใหญ่ ที่มีความหนาแน่นของประชากร และการย้ายถิ่นเข้ามาในประเทศไทยของกลุ่มประชากรข้ามชาติ ที่มีจำนวนมากถึง 5.3 ล้านคน มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรค 1.7 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งยังพบปัญหาความถูกต้องของการยืนยันตัวบุคคลและภาระการเรียกเก็บค่าใช้บริการ จึงได้มีความร่วมมือกับสภากาชาดไทยเพื่อนำระบบทะเบียนอัตลักษณ์มาใช้ประกอบการให้บริการด้านสาธารณสุข ตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านระบบ TRCBAS ของสภากาชาดไทยทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 325,928 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 50,823 คน

ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยบริการสาธารณสุขทั้งภาครัฐและภาคเอกชน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค. 68) โดยปีงบประมาณ 2569 สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 – 12 ขยายผลการดำเนินงานเขตสุขภาพละ 2 จังหวัด รวม 24 จังหวัด และร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ขยายผลการดำเนินงานในพื้นที่ 6 เขต ได้แก่ บางขุนเทียน บางแค บางบอน ภาษีเจริญ หนองแขม ตลิ่งชัน และ รพ.ในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้การขึ้นทะเบียนยืนยันตัวตนของประชากรข้ามชาติมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การให้บริการด้านการป้องกันควบคุมโรคและการดูแลสุขภาพที่ต่อเนื่องและแม่นยำ
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค โดยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแผนงาน เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในกลุ่มประชากรเฉพาะเขตเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 16 – 17 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน พัฒนาบุคลากร และเครือข่ายด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ในกลุ่มประชากรแรงงานข้ามชาติ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สู่การปฏิบัติในพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหาร และนักวิชาการ จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 – 12 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 200 คน
รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับสภากาชาดไทย สวทช. กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงาน ในการจัดระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) มุ่งหมายให้เกิดระบบติดตามการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนาระบบอัตลักษณ์บุคคล ระบบใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบซื้อประกันสุขภาพภาครัฐ เพื่อให้สามารถติดตามการรักษาพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโรคไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ รวมทั้งสร้างหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมในทุกจังหวัด ยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศโดยรวม อันจะช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐในระยะยาวต่อไป