กรมควบคุมโรคโดยสปคม.ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เดินหน้าตรวจคัดกรองสุขภาพแรงงานข้ามชาติ พร้อมเดินหน้าใช้เทคโนโลยีชีวมิติการจดจำใบหน้าและการจำลายม่านตาลงทะเบียนผู้เข้ารับบริการร่วมกับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ กลุ่มประชากรแฝง เพื่อให้บริการด้านสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ถูกคน ถูกเวลา และถูกชนิด ช่วยในการติดตามและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.)กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์ไผท สิงห์คำ ผู้อำนวยการสปคม. นำทีมงานลงพื้นที่จัดกิจกรรมให้บริการตรวจคัดกรองโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ณ บริษัทบีเอสวาย คอนสตรัคชั่น จำกัด ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

นายแพทย์ไผท สิงห์คำ ผู้อำนวยการสปคม.กล่าวว่าปัจจุบันแรงงานข้ามชาติถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย และจากข้อมูลสถานการณ์แรงงานข้ามชาติ กรมการจัดหางานกระทรวงแรงงาน ณ เมษายน 2568 พบว่า แรงงานข้ามชาติที่ได้รับอนุญาตทำงานทั่วราชอาณาจักรมีจำนวนทั้งสิ้น 4,189,984 คน โดยแรงงานข้ามชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานส่วนใหญ่มาจากประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา และ เวียดนาม ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า มีแรงงานข้ามชาติมากกว่า 1 ล้านคน ที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเหมาะสมด้วยข้อจำกัดหลายประการ เช่น สิทธิการรักษา ภาษาและการสื่อสาร แรงงานข้ามชาติถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเนื่องจากลักษณะการพักอาศัยที่อยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมาก มีการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้ง และแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพและการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค
การจัดกิจกรรมให้บริการตรวจคัดกรองสุขภาพให้กับแรงงานข้ามชาติที่จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อให้แรงงานข้ามชาติได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ รวมถึงการได้รับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค เพื่อนำไปสู่การตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดการเจ็บป่วยด้วยโรคและภัยสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น และยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานของแรงงานข้ามชาติด้วย
นายแพทย์ไผทกล่าวและอธิบายว่าเนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามีแรงงานข้ามชาติ ที่ยังไม่มีเอกสารระบุตัวตน เมื่อมีการเกิดโรคระบาดแล้วต้องรับวัคซีนป้องกันโรคหรือติดตามการรักษาต่อเนื่องจะทำได้ลำบากเพราะระบุตัวบุคคลไม่ค่อยได้ ซึ่งจะสร้างปัญหาด้านการควบคุมโรคจนมีผลกระทบวงกว้าง ดังนั้น เพื่อสนับสนุนระบบบริการสาธารณสุข การเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคในบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัวและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสภากาชาดไทยและ NECTEC ในการนำระบบ TRCBAS (Thai Red Cross Biometrics Authentication System) ซึ่งเป็นระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ด้วยข้อมูลชีวมิติ (Biometric)เพื่อเป็นระบบการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและการจำลายม่านตา เพื่อสร้างมาตรฐานการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์อย่างแม่นยำ ระบบนี้จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสาธารณสุขของประเทศ สามารถให้บริการด้านสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ถูกคน ถูกเวลา และถูกชนิด รวมถึงสามารถติดตามและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ