เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัว XPS 13 Plus ตอบรับความเรียบง่าย (Simplicity) สร้างนิยามใหม่ของแล็ปท็อประดับพรีเมียม

0
810

• Dell XPS 13 Plus มาพร้อมกับ 12th Gen Intel® CoreTM 28 โปรเซสเซอร์ ทำให้เป็น XPS ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา

• Dell XPS 13 Plus มาพร้อมกับความทันสมัยและความมีสไตล์ที่ทรงประสิทธิภาพ ถือเป็นนิยามใหม่ของความเป็นพรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้ใช้ในกลุ่ม Gen-Z
• แล็ปท็อปใหม่คือ XPS เครื่องแรกที่ได้รับการผลิตโดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนจากพลังน้ำ อีกทั้งยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศแนะนำตัว XPS 13 Plus ใหม่อย่างเป็นทางการในงานเปิดตัวที่ noble PLAY เพลินจิตวันนี้ ซึ่งเป็น XPS 13 ที่มาพร้อมกับ 12th Gen Intel® Core™ 28วัตต์ โปรเซสเซอร์ ตัวเครื่องได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ XPS 13 Plus ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและมีสไตล์เท่านั้น แต่ยังทรงประสิทธิภาพ ทำให้ XPS 13 Plus ที่มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากผู้ใช้ในกลุ่ม Gen-Z กลายมาเป็นนิยามใหม่ของความเป็นพรีเมียม
“XPS คือสายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดของเราตลอดกาล เป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงฟอร์มและฟังก์ชันของการทำงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้เพียงภูมิใจกับความสำเร็จนี้เพียงเท่านั้นเพราะเรายังคงเดินหน้าเพื่อคิดค้นพัฒนาและสรรสร้างสิ่งใหม่ต่อไป”

อโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชียและธุรกิจคอนซูเมอร์ภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าว “ทั้งนี้ XPS 13 Plus ใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้ใช้ในกลุ่ม Gen-Z ที่ให้ความสนใจที่ประสบการณ์การสร้างสรรค์เป็นหลัก ดังนั้น เราจึงตัดคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นออกไปและเสริมเติมสิ่งที่จำเป็นเพื่อมอบการทำงานที่ทันสมัยไร้รอยต่อกับผู้ใช้เป็นสำคัญ”

XPS 13 Plus มาพร้อมกับ 12th Gen Intel® Core™ 28วัตต์ โปรเซสเซอร์ (สูงขึ้นจาก 15 วัตต์ ในรุ่นก่อนหน้า) พร้อมได้รับการสนับสนุนการทำงานจากพัดลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ให้ระบบระบายลม (airflow) ที่ดีขึ้น 55 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่เพิ่มเสียงรบกวนหรืออุณหภูมิXPS 13 Plus มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล่าสุด ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานในดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบา เพื่อการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างความเร็ว ประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในระดับพรีเมียม อีกทั้ง Express Charge 2.0 ยังสามารถช่วยให้เครื่องชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาที่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเติมพลังได้อย่างรวดเร็วดีไซน์สวยสะอาดไร้สิ่งรบกวน

แถบฟังก์ชันสัมผัสแบบ Capacitive, ทัชแพดแบบกระจกที่ไร้รอยต่อ พร้อมระบบสัมผัสแบบ haptics และคีย์บอร์ดแบบ Zero-lattice ที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน (user interfaces) เพื่อการออกแบบภายในที่ลงตัว XPS 13 Plus ได้รับการออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยในแบบมินิมัลลิสต์ โดยมาพร้อมคีย์บอร์ดที่เพรียวงาม แถบของปุ่มสั่งงาน (Function Row) ทัชแพด ตลอดจนที่พักมือ (Palm Rest) ที่ให้รูปลักษณ์ที่โดดเด่น สะอาดตา ให้ความนุ่มนวลเมื่อสัมผัส พร้อมเสริมด้วยขอบโค้งมนที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลทั่วทั้งตัวเครื่อง และไม่มีพื้นที่สิ้นเปลือง ด้วยระบบอินเทอร์เฟซแบบ edge-to-edge ที่ให้ความเรียบง่ายในการออกแบบทั้งหมดเพื่อรูปลักษณ์ภายนอกที่สะอาดและกลมกลืนได้รับการดีไซน์มาพร้อมคีย์แคป (หรือที่รู้จักในชื่อ Zero-lattice) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวคีย์บอร์ดให้ความสะดวกสบาย นุ่มนวล และมีประสิทธิภาพในทุกการสัมผัสตัวแป้นพิมพ์

นอกจากนี้ แถบด้านบนสุดของตัวคีย์บอร์ดยังดูเรียบหรูหมดจดมากกว่าเดิม ทั้งหมดเพราะความสามารถด้านการสัมผัสใหม่ (touch experience) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างปุ่มพิเศษ (media keys) และปุ่มฟังก์ชัน (function keys)ได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกัน ตัว trackpad แบบดั้งเดิมยังถูกแทนที่ด้วย glass touchpad ที่ให้การตอบสนองต่อการสัมผัสในแบบ haptic อีกด้วย
XPS 13 Plus มาในสีเข้มเหนือกาลเวลา (กราไฟต์) พร้อมพื้นผิวที่ได้รับการปรับปรุงด้วยเจตนาให้ตัวแล็ปท็อปออกมาที่สะท้อนความเรียบหรูในระดับพรีเมียมเสริมแกร่งประสาทสัมผัสเพื่อการสร้างสรรค์ที่ดียิ่งขึ้น

ความละเอียดสูงสุด 4K+ หรือสีที่สดใสสมจริงบนจอแสดงผล OLED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Eyesafe® ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย พร้อมดีไซน์ลำโพงสี่ตัวที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเดลล์เข้าใจเป็นอย่างดีว่าประสาทสัมผัส (senses) คือสิ่งที่ใช้ในการขับเคลื่อนกระบวนการของการสร้างสรรค์ ดังนั้น XPS 13 Plus ใหม่จึงเพิ่มประสิทธิภาพของทั้งภาพ และเสียงให้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จอแสดงผล InfinityEdge แบบ 4 ด้าน ที่บุกเบิกขึ้นใหม่ยังคงมอบประสบการณ์การรับชมในแบบ borderless อย่างแท้จริง ในขณะที่จำนวนเลเยอร์จากหน้าจอดิสเพลย์ได้ถูกลดลงเพื่อปรับปรุงความชัดเจนและช่วยให้น้ำหนักลดลง ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงที่ดังกังวาลมากกว่าเดิมพร้อมแถบเสียงแบบไดนามิคที่กว้างขึ้นพร้อมลำโพงที่พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ 4 ตัวเมื่อต้องการสร้างสรรค์ หรือใช้งานคอนเทนต์โดยลำโพงแบบยิงเสียงขึ้น (up-firing) สองตัวซ่อนอยู่ภายใต้คีย์บอร์ด ในขณะที่ลำโพงแบบยิงเสียงลง (down-firing) อีกสองตัวที่ฐานที่จะให้ผลลัพธ์ของเสียงที่น่าทึ่งทั้งสำหรับการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ และการประชุมการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่มาจากความใส่ใจ

XPS ตัวแรกที่ผลิตขึ้นโดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนจากพลังน้ำ ซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอะลูมิเนียมได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (reuse) ในพีซีเครื่องใหม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย 2030 ของเดลล์การใส่ใจและให้ความสำคัญต่อแนวทางของความเรียบง่ายในแบบมินิมัลลิสต์ของเดลล์ขยายออกไปไกลกว่าการออกแบบเพื่อให้ครอบคลุมทั้งกระบวนการด้านการผลิตและการทำบรรจุภัณฑ์ โดยทั้งหมดส่งผลต่อการสรรค์สร้างกระบวนการผลิตที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งมั่นและพันธสัญญาอันยาวนานของเดลล์ในการที่จะทำงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการตัดทอนขั้นตอน และลดการเคลือบเงาและวัสดุต่างๆ และยกระดับขั้นตอนอื่นๆ ที่ยังคงอยู่ขึ้นมา ทำให้เดลล์สามารถลดปริมาณชิ้นส่วนที่ถูกทิ้งตลอดจนภาพรวมของคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยลงได้ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดของ XPS 13 Plus ยังทำมาจากวัสดุที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนหรือหมุนเวียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเอกสารประกอบที่เป็นกระดาษซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการรีไซเคิลอีกด้วยและท้ายสุด ด้วยระบบของ Dell Migrate ผู้ใช้สามารถย้ายข้อมูลและไฟล์ที่มีความสำคัญและยากต่อการแทนที่จากพีซีที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows ไปยัง XPS 13 Plus แล็ปท็อปใหม่นี้ได้โดยราบลื่น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
• ชุดเอกสารข่าว (Press kit)
ราคาและการวางจำหน่าย
• XPS 13 Plus พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 73,990 บาท

เกี่ยวกับเดลล์ เทคโนโลยีส์
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจและปัจเจกบุคคลสร้างอนาคตดิจิทัล พร้อมช่วยปฏิรูปทั้งรูปแบบการทำงาน การดำเนินชีวิต และการพักผ่อน เดลล์ เทคโนโลยีส์ให้การดูแลสนับสนุนลูกค้าด้วยสายผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการบริการที่กว้างที่สุด และมีความเป็นนวัตกรรมอย่างสูงสุดในยุคของข้อมูล (data era)