เมื่อวันจันทร์ที่ 25- วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ เดอะไพน์ รีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โครงการ TO BE NUMBER ONE ได้จัดกิจกรรมค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง รุ่นที่30
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007583-1024x682.jpg)
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวในพิธีเปิดค่ายว่า “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง”หรือTO BE NUMBER ONE CAMP เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสและทางเลือกให้กับสมาชิก TO BE NUMBER ONE ทั่วประเทศ ให้ได้รับการพัฒนาทักษะทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม อย่างถูกต้องและเหมาะสม ได้รับประสบการณ์ไปพร้อมๆกับได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินในลักษณะ PLAY AND LEARNและยังได้เพื่อนใหม่ๆทำให้เกิดสังคม เกิดเครือข่าย TO BE NUMBER ONE อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ค่ายฯ นี้ ให้โอกาสเท่าเทียมกันระหว่างเยาวชนที่มีความแตกต่างทั้งด้านพื้นที่ ภูมิลำเนาและสถานะทางครอบครัว ในการตามหาความฝันของตน รวมทั้งโอกาสการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อการอยู่ร่วมกับบุคคลที่ไม่คุ้นเคยอย่างมีความสุข มีความคิดเชิงบวก ไม่ท้อถอยอะไรง่ายๆ มีความพยายามรู้จักเสียสละ อดทน มีความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007587-1024x682.jpg)
ขอขอบคุณผู้สังเกตการณ์ทุกท่านที่ได้เสียสละ เวลา กำลังกายและกำลังทรัพย์เข้าร่วมสังเกตกิจกรรมในค่าย ขอให้ทุกท่านนำเอาสิ่งดีๆจากค่ายนี้ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเยาวชน ในความรับผิดชอบของท่านต่อไป
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007584-1024x682.jpg)
หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิโครงการTO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่ากิจกรรมในค่ายแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กิจกรรมที่ต้องเรียนรู้ ได้แก่การฝึกทักษะการให้คำปรึกษาเบื้องต้นและเทคนิคการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ เพื่อให้พวกเรามีความรู้ ความสามารถกลับไปเป็นผู้ให้คำปรึกษาและเป็นผู้นำจัดกิจกรรมพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ให้กับเพื่อนๆได้ 2.กิจกรรมที่ควรเรียนรู้ ได้แก่ การพัฒนาบุคลิกภาพ มารยาททางสังคม การพัฒนาด้านภาษาต่างประเทศ และ 3. กิจกรรมที่น่าเรียนรู้ ได้แก่ การพัฒนาความสามารถในกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ตนเองสนใจ เช่น ด้านการแสดง การเต้น การร้องเพลง ศิลปะ ดนตรี กีฬา
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007589.jpg)
จากการติดตามสมาชิกที่ผ่านค่ายตั้งแต่ รุ่นที่ 1ถึงรุ่นที่29 ซึ่งถือเป็นแกนนำโครงการ TO BE NUMBER ONE พบว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่นการอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีทัศนคติมุมมองที่ดี มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น รู้จักเรียนรู้วิธีการทำงาน สามารถนำความรู้ ทักษะและสมรรถนะที่ได้รับจากค่ายไปช่วยกิจกรรมสาธารณประโยชน์ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจ จึงขอให้พวกเราพยายามเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ จากค่ายนี้ ไปเพื่อพัฒนาตัวเราและ ทำประโยชน์กับสังคมให้ได้มากที่สุด เพื่อสานต่อความสำเร็จของค่ายนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโครงการ TO BE NUMBER ONE
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007585-1024x457.jpg)
นายพีระยศ สื่อหงวน “เปปเปอร์” หนึ่งในTO BE NUMBER ONE IDOLรุ่นที่13 กล่าวว่าตนเองมาเข้าค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE เป็นครั้งแรก เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนให้มากขึ้น เนื่องจาก เวลาปฏิบัติภารกิจในฐานะ IDOL รุ่นที่ 13 ใกล้จะจบลงและจะมีน้องรุ่นที่ 14 เข้ามารับหน้าที่ต่อไป จึงอยากใช้เวลาช่วงที่เหลืออยู่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายได้ย้อนวันวานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากค่ายให้มากที่สุด ในค่ายตนเองได้เพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้น ได้พัฒนาศักยภาพของตนเองจากกิจกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้น และกิจกรรมต่างๆในค่ายก็สามารถตอบโจทย์ในด้านที่ตนเองต้องการได้ทั้งการร้อง การเต้น เช่นครั้งนี้ตนเองได้ลงเรียนเต้นบีบอยและเรียนร้องเพลง เพราะอนาคตตนเองมีความฝันอยากเป็นศิลปิน อยากบอกเพื่อนๆว่าค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE นี้เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น ทุกคนอยู่กันอย่างครอบครัว ทุกคนสามารถเปิดใจคุยกันได้ นายชัยวิชิต แห้วเพ็ชร “ตงตง” กล่าวว่า มาเข้าค่ายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว เมื่อย้อนไปตอนเข้าค่ายครั้งแรกตนเองได้มีโอกาสเรียนรู้หลายอย่างจากค่าย ได้เรียนหลากหลายวิชามาก จนมาครั้งที่ 2 ก็ได้นำประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าค่ายเรียนด้านการร้องเพลงและเต้นมาต่อยอดเข้าประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 13 และประสบความสำเร็จได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับประเทศ จนมาเข้าค่ายครั้งที่ 3 และ 4 ก็ยิ่งรู้สึกว่าเราได้อะไรหลายอย่างเพิ่มขึ้น ได้ทั้งเพื่อนใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามา ได้ฝึกฝนการร้อง การเต้น การแสดง ได้มากขึ้น ซึ่งการได้มีโอกาสเข้าค่ายถึง 4 ครั้ง มองว่าตนเองจะนำประสบการณ์ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับน้องๆในจังหวัด อยากบอกว่าการมาเข้าค่าย TO BE NUMBER ONE มีแต่สิ่งดีๆที่เราจะได้รับกลับไป ขอขอบคุณทูลกระหม่อมองค์ประธานโครงการฯ ที่ให้โอกาสเด็กอย่างพวกเราได้มองเห็นคุณค่าของตนเอง และสามารถประสบความสำเร็จได้จนทุกวันนี้ อยากบอกเพื่อนๆทุกคนว่าอย่าเพิ่งท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ให้ลองลงมือทำก่อน ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ก็ถือเป็นประสบการณ์สำหรับเราที่ได้ทำ
นางสาวธันย์ชนก สีโอ “ใบเฟิร์น”กล่าวว่าได้มาเข้าค่าย TO BE NUMBER ONE ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่มาเพราะได้รับการแนะนำจากเพื่อน TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 13 ให้มาลองเรียนรู้และหาประสบการณ์จากค่ายนี้ กิจกรรมต่างในค่ายทำให้เราได้เพื่อนใหม่ๆและได้ฝึกทักษะใหม่ๆที่เราสนใจ เช่นครั้งนี้ตนเองมีความสนใจในการเรียน เทควันโด และ บีบอย ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไกลตัวสำหรับตัวเอง และในชีวิตจริงก็อาจไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ การมาเข้าค่ายครั้งนี้จึงเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้ตนเองกล้าลองอะไรใหม่ๆ มองว่าการเข้าค่ายจะช่วยเสริมพื้นฐานความสามารถของตนเองที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดความฝันด้านการเป็นศิลปินดาราหรือนักแสดงของตนเองได้ อยากบอกทุกคนที่มีความฝันว่า ให้ลองทำดูก่อน อย่าคิดว่าตนเองเก่งไม่พอ หรือกลัวคนที่เก่งกว่า เพียงแค่เราลองทำเราก็จะรู้ว่าเราก็สามารถทำได้เหมือนกัน
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007586.jpg)
อาจารย์ ศุภิตา ศิลปะนครฤทธิ์”ครูวิตา”ครูที่ปรึกษาชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนลาซาลโชติรวีนนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ในฐานะผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าทางโรงเรียนได้ส่งเด็กมาร่วมกิจกรรมค่าย TO BE NUMBER ONE ตั้งแต่รุ่นที่ 18 ซึ่งทุกครั้งครูจะมาร่วมดูแลเด็กที่เป็นตัวแทนของจังหวัด พร้อมๆกับมาศึกษาข้อมูลจากการจัดกิจกรรมค่ายเพื่อนำไปถ่ายทอดต่อให้กับนักเรียนที่โรงเรียน ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ได้เห็นจากการเข้าค่าย TO BE NUMBER ONE อย่างแรกคือ การเข้าใจเด็กวัยรุ่นในแต่ละยุค หลังจากจบกิจกรรมค่ายในแต่ละครั้งเด็กจะมีพัฒนาการที่เปลี่ยนไป ความรู้ต่างๆที่ได้รับเด็กสามารถนำไปใช้ในชมรม TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียนได้ เช่น การให้คำปรึกษา คำแนะนำ การมองเห็นบทบาทของตนเองในชมรมฯ เด็กสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาและแนะนำน้องๆในชมรมฯได้ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเด็กจะมีความมั่นใจในตัวเอง สามารถค้นพบตัวเองและมีความสุขในวัยของพวกเขา สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองในฐานะที่เป็นวัยรุ่นยุคใหม่และสามารถเผยแพร่ให้กับน้องๆได้ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง
นายพงศธร คูรดี“บอล” พี่เลี้ยงพิเศษกล่าวว่าตนเองเริ่มเป็นพี่เลี้ยงค่าย TO BE NUMBER ONE มาตั้งแต่รุ่นที่ 13 มองว่ากิจกรรมในค่ายให้ประโยชน์กับเด็กๆในหลายๆด้าน ด้านการพัฒนาในภาพรวม ทั้งบุคลิกภาพ ความคิด การจัดการทางอารมณ์ การสื่อสาร การพูด การเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆนอกจากเราจะดูแลเรื่องทั่วไปแล้ว เรายังสามารถรับฟังและให้คำแนะนำในบางเรื่องกับน้องได้ เพราะคิดว่าตอนเราเป็นเด็กก็อยากให้มีใครสักคนที่สามารถรับฟังเราได้ให้คำปรึกษาได้ และคิดว่าเด็กยุคนี้ก็คงคิดคล้ายกัน จึงอยากมาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อช่วยเหลือน้องที่อาจจะมีปัญหาหรือยังคิดไม่ออก เช่น ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ เราก็สามารถชี้แนะช่องทางที่สามารถตอบโจทย์ให้กับน้องๆและให้น้องสามารถนำไปปรับใช้กับตนเองได้ ประสบการณ์จากการเป็นพี่เลี้ยงปัญหาที่พบจะมีทั้งเด็กมาปรึกษาทั้งเรื่องเพื่อน ครอบครัว การปรับทัศนคติของตนเอง ช่วยให้เด็กเข้าใจตัวเองมากขึ้น และสำหรับตัวเองแล้วการมาเป็นพี่เลี้ยงค่าย TO BE NUMBER ONE ทำให้ได้ฝึกประสบการณ์การเป็นผู้นำ ทั้งการรู้จักคิด วิเคราะห์ ปรับปรุง สามารถนำมาใช้กับตนเอง บอกต่อเพื่อนและนำไปใช้ในสังคมได้
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2024/04/1000007588-1024x682.jpg)