“กิฟฟารีน” ร่วมด้วยช่วยน้ำท่วม สมทบทุน-มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ รวมมูลค่ากว่า 349,000 บาท

0
86

นายพงศ์พสุ อุณาพรหม รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ที่เกิดขึ้น กิฟฟารีน ในฐานะบริษัทฯ ของคนไทย ที่มีฐานลูกค้าและนักธุรกิจกิฟฟารีนกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีความเป็นห่วง โดยอยากขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกๆ ภาคด้วย ล่าสุดได้เข้ามอบเงินสมทบทุน “โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” สภากาชาดไทย จำนวน 100,000 บาท โดยคุณขรรย์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ให้เกียรติรับมอบ ณ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์จำนวน 1,000 ขวด รวมมูลค่ากว่า 249,000 บาท ให้กับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบภัยนำไปใช้ทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลดด้วย กิฟฟารีนขอร่วมส่งกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยทั่วประเทศ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 349,000 บาท
“กิจกรรมส่งมอบความช่วยเหลือดังกล่าวถือเป็นการคืนกำไรกลับสู่สังคมที่กิฟฟารีนให้ความสำคัญและต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในทุกสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำกิจกรรม CSR ต่อเนื่องตลอดทั้งปีอยู่แล้ว เพราะถือเป็นนโยบายหลักของบริษัทฯ ด้วย ครั้งนี้หวังว่าการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในทุกๆ ภาคของกิฟฟารีน จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านช่วงเวลาวิกฤตินี้ไปได้”

เกี่ยวกับ “กิฟฟารีน”
“ทุกครั้งที่คุณใช้กิฟฟารีน นั่นคือความรับผิดชอบของเรา…ทุกครั้งที่คุณเชื่อมั่นในกิฟฟารีน นั่นคือ ความภูมิใจของเรา” กิฟฟารีนก่อกำเนิดจากความมุ่งมั่นของคณะแพทย์ และเภสัชกรที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการรับรองที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ด้วยปณิธานยึดมั่นในความจริงใจ และความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอันเต็มเปี่ยม “กิฟฟารีน” มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากการวางแผนการตลาดที่มีวิสัยทัศน์ แผนการขายที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีน พร้อมทั้งการสนับสนุนด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่พร้อมจะตอบสนอง และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภคในระยะยาว ปัจจุบัน “กิฟฟารีน” มีโรงงานที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก ด้วยเงินลงทุนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด รวมไปถึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต ตลอดจนคัดเลือกคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีที่สุด