กสิกรไทย ขยาย Super Ecosystem กับพันธมิตร 7 กลุ่มธุรกิจ  ตอบโจทย์ลูกค้ากว่า 20 ล้านราย ย้ำความสำเร็จด้วย 20 รางวัลระดับโลก 

0
1151

กสิกรไทย รุกต่อเนื่องใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพบริการ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำใน 7 กลุ่มธุรกิจ ขยายเครือข่าย “Super Ecosystem” เชื่อมโยงช่องทางบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคไฮบริด (Hybrid Life) โดยลูกค้าปัจจุบันกว่า 20 ล้านราย สามารถใช้บริการผ่านสาขาธนาคารกว่า 830 แห่ง เครื่องฝากถอนโอนกว่า 10,970 เครื่อง จุดให้บริการเคแบงก์ เซอร์วิสกว่า 2.2 แสนจุดทั่วประเทศ และ K PLUS ที่เป็นแพลตฟอร์มหลักเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เต็มรูปแบบ ย้ำความสำเร็จด้วย 20 รางวัลระดับโลกใน 7 เดือนแรกของปี 2565 รวมถึงได้รับโหวตเป็นธนาคารหลัก 1 ใน 10 ของเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยที่ลูกค้าเลือกใช้บริการประจำ และรางวัล Best Retail Bank in Thailand ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 13

ดร. พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการให้บริการทางการเงินกับลูกค้าในรูปแบบผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-Channel) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ครอบคลุมทุกความต้องการในทุกที่ ทุกเวลา เน้นความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันสร้าง Super Ecosystem ทำให้ลูกค้าได้ใช้บริการทางการเงินรวมถึงการใช้จ่ายในไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อีกทั้งทำให้ธนาคารขยายบริการไปสู่กลุ่มลูกค้าคนตัวเล็กที่ต้องการใช้บริการทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับกลุ่มพันธมิตรที่ธนาคารได้ร่วมกันขยายเครือข่ายการให้บริการทางการเงิน ประกอบด้วย 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและบริการชำระเงิน (e-Commerce and Payment) เช่น Shopee, Blue CONNECT 2) กลุ่มโซเชียล มีเดีย (Social Media) เช่น บริการโซเชียลแบงกิ้งผ่าน LINE BK 3) กลุ่มให้บริการทางการเงิน เช่น จุดบริการเคแบงก์ เซอร์วิส (KBank Service) สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านพาร์ทเนอร์ของธนาคาร มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ที่ลูกค้าใช้ชีวิตประจำวัน 4) กลุ่มการศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาแอปฯ CU NEX 5) กลุ่มสาธารณสุข ร่วมมือในการพัฒนา Healthcare Digital Platform ให้กับโรงพยาบาลรัฐ เพิ่มศักยภาพบริการการแพทย์วิถีใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง เชื่อมโยงระบบชำระเงินและบริการทางเงินต่างๆ เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลชลบุรี สถาบันประสาทวิทยา และแอปฯ หมอ กทม.  6) กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานสะอาด เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคาประหยัดผ่าน K+ market การร่วมมือกับค่ายรถยนต์ให้สินเชื่ออัตราพิเศษแก่ลูกค้าที่กู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า การผนึกพันธมิตรโครงการบ้านและบริษัทนวัตกรรมสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ลูกค้าและผู้ประกอบการเพื่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์ 7) กลุ่มท่องเที่ยว ร่วมกับบริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พัฒนาแพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยว “ทักทาย” (TAGTHAi)

ดร. พิพัฒน์พงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ธนาคารมีลูกค้ากว่า 20 ล้านราย โดยลูกค้าสามารถใช้บริการที่สาขากว่า 830 แห่ง เครื่องฝากถอนโอน (K-ATM / K-CDM) กว่า 10,970 เครื่อง และจุดบริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” กว่า 2.2 แสนจุดทั่วประเทศ อยู่ในพื้นที่ให้บริการของพันธมิตรที่มีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ เช่น ไปรษณีย์ไทย Big C ตู้บุญเติม CJ Express ร้าน 7-Eleven และอื่นๆ ให้ลูกค้าทำธุรกรรมทั้งฝาก ถอน จ่ายบิล และยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องมาสาขาเพียงอย่างเดียว 

ในขณะที่ธนาคารต้องการให้ K PLUS เป็น “Digital Lifestyle Ecosystem” ที่ไม่ได้จำกัดแค่การใช้งานใน K PLUS เท่านั้น แต่พัฒนาต่อยอดให้เป็น Open Banking Platform เต็มรูปแบบ เชื่อมต่อบริการของธนาคารกับแอปฯ ของพันธมิตรได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ลูกค้าใช้จ่ายในแอปฯ ต่างๆ ผ่าน K PLUS โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไปมา นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการยืนยันตัวตนผ่าน K PLUS (Authentication with K PLUS) เพื่อสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพันธมิตรได้ด้วย 

ความร่วมมือดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการผลักดันบทบาทของธนาคารในการเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค (Modern World Class Technology Capability) โดยล่าสุดได้รับรางวัลจากสถาบัน The Asian Banker จากผลโหวตเป็นธนาคารหลัก 1 ใน 10 ของเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยที่ลูกค้าเลือกใช้บริการประจำ รวมถึงได้รับรางวัล Best Retail Bank in Thailand เป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 ธนาคารสามารถกวาด 20 รางวัลใหญ่ จาก 4 เวทีระดับโลก เช่น 

  • รางวัล Best Retail Bank for Digital CX-Thailand จากสถาบัน The Digital Banker 
  • รางวัล Best Service Provider-Transaction Bank จากสถาบัน The Asset Triple A
  • รางวัล Best Digital Collaboration โดย LINE BK จากสถาบัน The Asset Triple A 
  • รางวัล Highly Commended- Excellence in Omni-Channel Integration โดย K CHECK ID จากสถาบัน Retail Banker International
  • รางวัล Highly Commended- Trailblazing Use of AI or Machine Learning in Financial Services โดย LINE BK และโครงการ Digital Commercial Loan สำหรับร้านค้า Shopee จากสถาบัน Retail Banker International

KBank expands its ‘super ecosystem’ with business partners in seven industries, offering a satisfying customer experience to more than 20 million clients – its success is reflected in winning 20 prestigious accolades 

    KASIKORNBANK (KBank) has earnestly adopted technology to bolster its service capabilities through synergy with leading partners in seven industries. The collaborative efforts aim to expand its network within a “super ecosystem” that connects services, both online and offline, in response to customers’ lifestyle needs in the hybrid era. Currently, more than 20 million customers can use KBank services at more than 830 branches and 10,970 K-ATM/K-CDM, over 220,000 KBank Service points across the country as well as K PLUS – a full-fledged platform for comprehensive daily transactions. This success has been recognized with 20 prestigious global awards granted to KBank, including “Most Selected Main Retail Bank” (among the top 10 banks in the Asia-Pacific region and number one in Thailand, voted by customers as the country’s topmost bank). KBank has also been named “Best Retail Bank in Thailand” for the 13th consecutive year. 

Dr. Pipatpong Poshyanonda, KBank President, said that KBank is determined to bolster its financial service capabilities through omni-channel solutions to ensure a seamless customer experience that is aligned with the clients’ needs anytime, anywhere. The Bank has prioritized synergy with various partners in order to create a “super ecosystem” that allows customers to use financial services and beyond with enhanced convenience, speed and security. The Bank also aims to extend its reach to low-income retail customers to ensure their improved access to financial services. 

The business partners with which KBank has expanded its financial service networks include seven groups: 1) e-commerce and payment, e.g., Shopee, Blue CONNECT; 2) social media, e.g., social banking services via LINE BK; 3) financial service providers, e.g., KBank Service for financial transactions via KBank’s partners with networks that cover daily lifestyles of customers; 4) education, e.g., CU NEX application of Chulalongkorn University; 5) public health, joining hands in developing healthcare digital platforms for public hospitals to enhance the service potential of advanced medical technologies by providing extensive access to service users and creating linkages with payment systems and financial services, such as King Chulalongkorn Memorial Hospital, Thammasat University Hospital, Rajavithi Hospital, Chonburi Hospital, Neurological Institute of Thailand and the “BMA Doctor” application; 6) clean energy, e.g., cooperation with partners for EV bike rentals via K+ market, cooperation with automobile companies for lending with preferential interest rates to EV car buyers, and cooperation with residential projects and innovation companies for lending to customers and business operators for solar panel installation; and 7) tourism, i.e., cooperation with Thai Digital Platform for Social Enterprise Co., Ltd., and Tourism Authority of Thailand to develop TAGTHAi – a tourism service platform.

Dr. Pipatpong said that KBank now has more than 20 million customers, who may use services at more than 830 branches and 10,970 K-ATM/K-CDM as well as over 220,000 KBank Service points across Thailand within the service areas of KBank’s partners having nationwide branch networks, for example, Thailand Post, Big C, Boonterm kiosks, CJ Express and 7-Eleven, among others. Customers can conduct transactions including deposit, withdrawal, bill payment and identity authentication to open electronic savings accounts – K-eSavings – anytime, anywhere, without having to visit a KBank branch.

Concurrently, KBank wants to engineer K PLUS to become part of a ‘Digital Lifestyle Ecosystem’, which is not only limited to using various features on K PLUS itself, but is also a full-fledged open banking platform that seamlessly links KBank’s services with the applications of our strategic partners. Consequently, customers will be able to spend via various applications on K PLUS with no need to switch between applications. They will be able to use the Authentication with K PLUS service to apply for a wide array of services and products of our strategic partners, as well.    

Such collaboration is imperative in promoting KBank to become a financial service provider, with modern, world-class technology capabilities. Recently, KBank garnered two awards from The Asian Banker, namely “Most Selected Main Retail Bank” (among the top 10 banks in the Asia-Pacific region, and number one in Thailand, voted by customers as the country’s number one bank), and “Best Retail Bank in Thailand” for the 13th consecutive year. During the first 7 months of 2022, KBank received 20 distinguished awards from four international organizations, for example;

  • “Best Retail Bank for Digital CX-Thailand” from The Digital Banker
  • “Best Service Provider-Transaction Bank” from The Asset Triple A
  • “Best Digital Collaboration” for LINE BK from The Asset Triple A
  • “Highly Commended- Excellence in Omni-Channel Integration” for K CHECK ID from Retail Banker International
  • “Highly Commended- Trailblazing Use of AI or Machine Learning in Financial Services” for LINE BK as well as the digital commercial loan project for Shopee’s merchants from Retail Banker International.