กรุงศรีนำเสนอ FX Digital Platform ช่วยลูกค้าบริหารจัดการความเสี่ยง ด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม

0
666

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โดย กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์มุ่งนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อให้การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องง่ายขึ้น ผ่าน Foreign Exchange Digital Platform แพลตฟอร์มที่ช่วยลูกค้าบริหารความเสี่ยงด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 มีโอกาสแข็งค่าขึ้น คาดระดับการซื้อขายสิ้นปี 2566 อยู่ที่ราว 33.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายฮิโรทากะ คุโรกิ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์มุ่งนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้าทุกกลุ่มผ่าน 3 มุมมองหลัก ซึ่งได้แก่ Digitalization, ESG และ AEC ในมุมมองแรก Digitalization กรุงศรีพร้อมที่จะช่วยลูกค้าทุกกลุ่มในการดูแลและบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนผ่าน FX Digital Platform ซึ่งครอบคลุมตลอดเส้นทางประสบการณ์ของลูกค้า ตั้งแต่การอัปเดตข่าวสาร การทำธุรกรรม จนถึงการยืนยันธุรกรรม โดยเริ่มต้นจาก Krungsri FX ซึ่งเป็นบัญชีทางการบน LINE แอปพลิเคชันที่ลูกค้าสามารถเช็กข่าวสารตลาดการเงินและประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยมีการนำเสนอทั้งในรูปแบบของบทวิเคราะห์ และคลิปวิดีโอ หลังจากนั้น ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ ของธนาคาร ซึ่งได้แก่ FX@Krungsri โมบายแอปพลิเคชัน และบนกรุุงศรีบิซออนไลน์ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม FX@Krungsri ซึ่งปัจจุบันได้ให้บริการแก่ลูกค้านิติบุคคลในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศมากถึง 28 สกุลเงินทั่วโลกได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. โดยลูกค้าสามารถตั้งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติในราคาที่ต้องการเมื่อตลาดเคลื่อนไหวถึงราคาที่ตั้งไว้ และเมื่อทำธุรกรรม FX เสร็จสิ้นแล้ว ลูกค้ายังสามารถยืนยันธุรกรรมผ่านระบบ e-FX confirmation ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขา เพื่อยื่นเอกสารยืนยันธุรกรรม ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตลูกค้าง่ายขึ้น ประหยัดทั้งทรัพยากรและเวลาได้อีกด้วย

ในมุมมองที่สอง ESG (Environment, Social and Governance) ในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้ระดมเงินทุนจาก IFC มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นจำนวนเงินที่ออกตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับ ESG สูงสุดที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยเคยออกมา ในปี 2562 กรุงศรีประสบความสำเร็จในการออกตราสารหนี้ Women Entrepreneurs Bonds เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนั้น การออก Green & Blue Bond ในเดือนที่ผ่านมา จึงเป็นการเพิ่มการสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกรุงศรีจะยังคงยึดมั่นพันธกิจในการสนับสนุนการขยายธุรกิจ ESG ของลูกค้าต่อไปในอนาคต

ในมุมมองที่สาม AEC (ASEAN Economic Community) ธนาคารกรุงศรียังได้สนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้าไปยังภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย การที่กรุงศรีเป็นสมาชิกของ MUFG ทำให้ธนาคารสามารถใช้เครือข่ายสาขาของ MUFG และธนาคารพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านในการให้บริการที่หลากหลายแก่ลูกค้าที่มีความต้องการในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อการชำระเงินในภูมิภาค ทั้งนี้ กรุงศรีจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ FX ที่มีคุณภาพ เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้าไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

นอกจากนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ยังได้ให้ภาพรวมของสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยระบุว่า “ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยชี้นำสำคัญสำหรับค่าเงิน โดยในช่วงครึ่งปีแรกเงินบาทเคลื่อนไหวในโซนอ่อนค่า แต่ยังเกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนถ่วงค่าเงินหยวนลง ดังนั้น หากมองไปข้างหน้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้ คาดการณ์ว่า แม้ธนาคารกลางชั้นนำของโลกยังยืนยันว่าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อยังเป็นเป้าหมายหลัก แต่เราเห็นว่าการคุมเข้มทางการเงินอย่างแข็งกร้าวในช่วงที่ผ่านมาจะบั่นทอนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้สุดทางแล้ว อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งลดลงช้าจะส่งผลให้ดอกเบี้ยค้างอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง” นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าว

“ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มผันผวนในทิศทางแข็งค่า เราคาดหวังระดับการซื้อขายสิ้นปี 2023 ที่ราว 33.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ บนสมมติฐานที่ว่าสหรัฐฯ ใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงสถานะดุลบัญชีเดินสะพัดที่ได้แรงส่งเชิงบวกจากภาคท่องเที่ยว นอกจากนี้ คาดว่าภาพการเมืองในประเทศจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยดึงดูดกระแสเงินทุนให้ไหลกลับเข้ามาในสินทรัพย์สกุลเงินบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในนโยบายด้านเศรษฐกิจและเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ด้วย สำหรับประเด็นเรื่องความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการเหวี่ยงตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง” นางสาวรุ่ง กล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 78 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 605 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 565 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 33,579 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย

กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,400 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 170,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปันสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english

Krungsri offers FX Digital Platform to help customers in every segment simplify FX and interest rate risk management

Krungsri (Bank of Ayudhya PCL) by the Global Markets Group has strived to provide a financial solution for simplifying the management of FX and interest rate risks through the Foreign Exchange Digital Platform that enables customers to conduct the entire process of risk management by themselves. Meanwhile, it expected that the Thai baht currency will strengthen in the latter half of 2023, staying at around 33.75 baht against the US dollar by the end of 2023.

Mr. Hirotaka Kuroki, Krungsri Head of Global Markets Group, said “The Global Markets Group aims to offer a financial solution that helps customers in every segment expand their businesses through three pillars, including digitalization, ESG (Environment, Social, and Governance), and AEC (ASEAN Economic Community). Under the first pillars of digitalization, Krungsri is ready to assist customers in controlling and managing the risk of foreign exchange fluctuations through the FX Digital Platform, which covers the entire journey including news updates, transaction making, and transaction confirmation. Starting from checking financial market news and major issues concerning the global economy conveniently and quickly through the Krungsri FX on LINE application, which presents text content and VDO clips. Then, customers can access the FX@Krungsri mobile app and Krungsri Biz Online (KBOL). For example, the FX@Krungsri platform allow juristic customers to trade 28 currencies across the globe from 6am to 12 am. Additionally, customers are able to set automatic trading orders at desired rates and confirm the transactions after successful execution instantly through the e-FX confirmation, without the need to visit a branch office to submit the confirmation documents. This will help customers make life simple and save resources and save time.”

For the second pillar about ESG, Krungsri recently issued green and blue bond. IFC subscribed to the $400-million green and blue bond, which marks the largest amount of bond related to ESG issued by Thailand’s commercial bank. Additionally, in 2019, the Bank achieved the first-ever issurance of Women Entrepreneurs Bonds in the Asia-Pacific region. The latest green and blue bond significantly helps customers mobilizing funds to support social and environmental projects. Krungsri is committed to continuously and expanding customers’ ESG businesses in the future.
The final pillar is AEC. The Bank actively supports customers in expanding their businesses across ASEAN. Leveraging MUFG’s extensive network and partner banks in neighboring countries, Krungsri provides a comprehensive range of solutions to meet the FX requirements of customers engaging in cross-border transactions and payments. The Bank is committed to developing innovative FX solutions to cater to the needs of customers seeking to expand their businesses into foreign countries.

In addition, the Global Markets Group also presented an overall picture of the foreign exchange and interest rate situation during the second half of 2023 by citing “The direction of US interest rates is the major leading indicator of currency value. In the first half of this year, the baht was moving in the depreciation range in tandem with other currencies in the region while concerns over China’s economy weighted on the Chinese yuan. Looking ahead to the second half of the year, although fighting inflation remains the top priority of major central banks across the world, we are of the view that the hawkish stance over the past years will slow down economic activity more significantly in the latter half of the year and the rate hiking cycle is nearing an end. Nevertheless, the slowly declining core inflation is expected to result in interest rate hovering around high levels for a while,” Miss Roong Sanguanruang, Krungsri Senior Vice President, Global Markets Planning Division, said.

“While the baht tends to fluctuate with an appreciating trend, we expect it to trade at around 33.75 baht/dollar by the end of 2023, mainly based on our view that the U.S. rate hiking cycle is getting close to an end, China’s economy is recovering, and the current account balance will enjoy tailwinds from the tourism sector. Moreover, it is expected that the domestic political scene will become clearer which will attract large inflows of baht-denominated assets depending on the confidence in macroeconomic policy and stability of the new government. As for the geopolitical risk and oscillation of commodity prices, we still need to keep an eye on the developments continuously,” Miss Roong concluded.

About Krungsri
Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its group companies) is the fifth largest financial group in Thailand in terms of assets, loans, and deposits, and one of Thailand’s six Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs) with 78 years of history in the country. Krungsri is a strategic member of the Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG), Japan’s largest financial group and one of the world’s largest financial organizations. Krungsri provides a comprehensive range of banking, consumer finance, investment, asset management, and other financial products and services to individual consumers, SMEs, and large corporations through 605 domestic branches (565 Banking Branches and 40 Auto Business Branches) and over 33,579 service outlets nationwide. The Krungsri Group is the largest card issuer in Thailand with 10 million credit cards, sales finance, and personal loan accounts in its portfolio; a major automobile financing service provider (Krungsri Auto); one of the fastest growing asset management companies (Krungsri Asset Management); and a pioneer in microfinance (Ngern Tid Lor).

Krungsri is strongly committed to the highest level of integrity in conducting its business. All Krungsri Group companies have been awarded accreditation from the Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption (CAC) in collaboration with industry peers and stakeholders on a zero tolerance approach to corruption.

About MUFG
Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG) is one of the world’s leading financial groups. Headquartered in Tokyo and with over 360 years of history, MUFG has a global network with approximately 2,400 locations in more than 50 countries. The Group has about 170,000 employees and offers services including commercial banking, trust banking, securities, credit cards, consumer finance, asset management, and leasing. The Group aims to “be the world’s most trusted financial group” through close collaboration among our operating companies and flexibly respond to all of the financial needs of our customers, serving society, and fostering shared and sustainable growth for a better world. MUFG’s shares trade on the Tokyo, Nagoya, and New York stock exchanges. For more information, visit https://www.mufg.jp/english.