Pylontech ทุ่มเทวิจัยและพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย สนองความต้องการระบบกักเก็บพลังงานทั่วโลก

0
1231
Pylontech new production plant layout

Pylon Technologies Co., Ltd. (“Pylontech” หรือ “Company”) ผู้ให้บริการระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ชั้นนำของโลก ประกาศว่า บริษัทมีความคืบหน้าตามแผนงานในการขยายขีดความสามารถให้ถึง 4GWh ภายในเวลา 3 ปี แม้เวลาจะค่อนข้างกระชั้นชิดก็ตาม

Pylontech ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเปิดขายหุ้น IPO บนกระดานหุ้นวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยีของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (STAR Market) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ในฐานะบริษัทจดทะเบียนรายแรกที่เน้นระบบกักเก็บโดยเฉพาะ ส่งผลให้บริษัทระดมทุนได้กว่า 2 พันล้านหยวน (ประมาณ 301 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยคุณ Wen Tan ซีอีโอของ Pylontech กล่าวว่า “ช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมาเราหยุดงานไปไม่กี่วัน เพื่อให้เราเดินหน้าผลิตเซลล์และขยายขีดความสามารถไปพร้อมกันได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่พบเห็นไม่บ่อยนักตามธรรมเนียมจีน แต่เรามีความกระตือรือร้นในการมอบทรัพยากรเพิ่มเติมแก่ลูกค้าของเราที่ต่างกำลังตั้งหน้าตั้งตารอ”

นับตั้งแต่ปี 2556 บริษัทได้ทำแผนผังระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี (BESS) เชิงกลยุทธ์สำหรับตลาดโลก ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Pylontech ได้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง โดยมีโซลูชัน LFP ESS ที่บูรณาการแนวดิ่งเป็นจุดแข็ง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมแรงดันตั้งแต่ 12V ไปจนถึง 1500V และมีความจุตั้งแต่ 500Wh ไปจนถึงกว่า 100MWh ตอบโจทย์ความต้องการระบบ ESS สำหรับที่อยู่อาศัย บริการ ESS ระดับพาณิชย์และอุตสาหกรรม รวมถึงบริการแบบผูกกับกริด

ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ตลาดระบบกักเก็บพลังงานกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรีลิเธียมไอออน แต่อุปทานกลับมีไม่มากพอ ส่งผลให้ Pylontech อยู่ในตำแหน่งที่เอื้ออำนวย ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่า ในปี 2562 นั้น ความต้องการแบตเตอรีลิเธียมไอออนสำหรับสถานีฐานการสื่อสารทั่วโลกอยู่ที่ 12.1GWh และคาดว่าจะเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นจนแตะหลัก 60GWh ในปี 2568

“ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราได้ยกระดับการผลิต กักเก็บ และใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตรของเราทั่วโลก” Geoffrey Song รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ กล่าว “การไม่หยุดคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และมุ่งกระชับความร่วมมือให้กว้างขวางขึ้น ถือเป็นหนทางเดียวในการสร้างโครงสร้างพลังงานใหม่ที่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และคุ้มค่า เราเชื่ออย่างยิ่งต่อพันธสัญญาจากบรรดาผู้นำทั่วโลกในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และมุ่งมั่นที่จะผลักดันความปรารถนาของเราให้เกิดขึ้นจริง”