เรื่องน่ารู้ของ “เมทัลชีท” ก่อนตัดสินใจซื้อ

0
3603

ปัจจุบันคนไทยนิยมสร้างบ้านสมัยใหม่ เช่น โมเดิร์น ทรอปิคอล มินิมอล อินดัสเทรียล จึงมีการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสไตล์อาคารแต่ละแบบ ทั้งด้านคุณสมบัติ ราคา ข้อดี ข้อเสียต่างๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อ วัสดุประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำไปใช้งานมุงหลังคา ทำกำแพง กันสาด ก็คือ “เมทัลชีท” สำหรับวัสดุชนิดนี้เป็นวัสดุก่อสร้างบ้านที่มีประโยชน์อย่างมากและคุ้มค่าในการลงทุนอย่างไร ผู้อ่านสามารถไปติดตามกันได้เลย

เมทัลชีท (Metal sheet) คืออะไร 

เมทัลชีท Metal sheet (คำว่า Metal แปลว่าโลหะ ส่วนคำว่า Sheet แปลว่าแผ่น) คือ แผ่นโลหะที่ผสมระหว่างอลูมิเนียมและสังกะสี ตัวแผ่นจะถูกรีดบางด้วยความร้อนและทำให้เป็นลอนที่มีหลายรูปแบบ แล้วถูกเคลือบด้วยอลูมิเนียมหรือสังกะสีเพื่อป้องกันการเกิดสนิม โดยสามารถนำไปทำหลังคา แผ่นฝ้า กันสาด แผ่นบานเกล็ด แผ่นปิดครอบ รั้ว กำแพง ผนังกั้น ถือได้ว่าเป็นวัสดุที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

แผ่นเมทัลชีทมุงหลังคาสามารถติดตั้งได้ง่าย มีหลากหลายความยาว ความหนาและสีสันให้เลือกใช้

เมทัลชีทมี 2 ประเภท 

  1. แผ่นหลังคาเหล็กเคลือบด้วยสังกะสีและอลูมิเนียม หรือ “อลูซิงค์” จากนั้นจะเคลือบสารปรับผิว สีรองพื้นและสีเคลือบผิวเป็นชั้นสุดท้าย ทำให้วัสดุมีหลากหลายสี เช่น น้ำตาล ขาว น้ำเงิน แดง เทา ดำ เขียว เหลือง เป็นต้น
  2. แผ่นหลังคาเหล็กเคลือบด้วยสังกะสีและอลูมิเนียม หรือ “อลูซิงค์” โดยไม่มีการเคลือบสีทำให้วัสดุประเภทนี้มีเฉพาะสีเงินแบบเดียว

        จะเห็นได้ว่าวัสดุทั้งสองประเภทมีลักษณะการเคลือบที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเคลือบในแบบที่ 1 มีคุณภาพในการป้องกันสนิมที่ดีกว่าและมีอายุการใช้งานที่มากกว่า แต่ราคาจะแพงกว่าแบบที่ 2 

ข้อดี

  1. มีความแข็งแรง ทนทาน เนื่องจากทำจากโลหะ แต่มีน้ำหนักเบาจึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของโครงสร้างรับน้ำหนักของอาคาร
  2. มีความหนาหลายขนาด ได้แก่ 0.23 0.28 0.33 0.35 0.47 0.5 มิลลิเมตร แต่ละขนาดเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
  3. มีสีสันและความยาวที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ
  4. นำความร้อนได้ดี แต่เป็นวัสดุที่ไม่อมความร้อน ทำให้หลังคาที่ทำจากวัสดุชนิดนี้เย็นไวกว่าหลังคากระเบื้องที่อมความร้อนมากกว่า
  5. ติดตั้งง่าย ประหยัด ราคาถูก

ข้อเสีย 

  1. ถ้าไม่มีการรองด้วยฉนวนความร้อน จะสามารถนำความร้อนได้ดีและเมื่อฝนตกภายในอาคารจะเสียงดังมาก ฉะนั้นควรที่จะรองด้วยโฟมบุหลังคา
  2. มีราคาและน้ำหนักมากกว่ากว่าสังกะสี

ข้อคำนึงในการเลือกเมทัลชีท

  • ลักษณะลอน

วัสดุชนิดนี้มีลักษณะลอนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลอนเล็ก ลอนสูง ลอนเตี้ย ลอนสำหรับผนัง ลอนรูปกระเบื้อง ลอนสเปน ลอนซากุระ ลอนดอกเหมยและอีกมากมาย การเลือกใช้ลอนแต่ละแบบสามารถช่วยในเรื่องการระบายน้ำ ความเหมาะสม และสไตล์ของอาคารนั้นๆได้ หลักในการเลือกคือ

– ลอนสูง เหมาะกับบ้านที่ฝนตกชุก เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี

– ลอนเล็ก เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก เพื่อความสมส่วนของอาคาร

– ลอนที่มีลักษณะเฉพาะตัว สามารถเลือกเพื่อให้เหมาะกับกับลักษณะของบ้าน

  • ความหนา 

วัสดุชนิดนี้มีความหนาที่หลากหลายซึ่งความหนาแต่ละระดับจะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ยิ่งเป็นวัสดุที่มีความหนามาก ก็จะยิ่งมีน้ำหนักมาก ทำให้การสร้างโครงสำหรับรับน้ำหนักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าวัสดุแบบบาง แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับประโยชน์การใช้งาน เพราะความหนาที่แตกต่างกัน เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ดังนี้

  • ความหนา 0.23-0.28 มิลลิเมตร เหมาะสมกับอาคารชั่วคราวที่ใช้หลังคาขนาดเล็ก

– ความหนา 0.30-0.35 มิลลิเมตร เหมาะสมกับการทำรั้วและกำแพงบ้าน

– ความหนา 0.35-0.40 มิลลิเมตร เหมาะสมกับพื้นที่ปลอดโปร่งที่เน้นพื้นที่ชั่วคราวภายในบ้าน เช่น โรงจอดรถยนต์ ชายคากันสาด เฉลียงนอกบ้าน

– ความหนา 0.40-0.47 มิลลิเมตร เหมาะสมกับหลังคาบ้าน ความหนาระดับนี้สามารถลดเสียงดังจากฝนตกได้ดีกว่าวัสดุแบบแผ่นบาง 

– ความหนา 0.47 มิลลิเมตรขึ้นไป เหมาะสมกับหลังคาขนาดใหญ่ เช่น โรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่

  • สี

วัสดุประเภทนี้มีการเคลือบสีที่หลากหลาย เช่น สีแดง สีส้ม สีเขียว สีเหลือง สีครีม สีขาว สีน้ำเงิน สีอลูซิงค์ และมีหลายเฉดสีให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็น สีเข้ม สีอ่อน สีโทนร้อน สีโทนเย็น การเลือกสีจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน ได้แก่ โทนสีภาพรวมบ้านที่สามารถจับคู่สีได้เหมาะสม สไตล์บ้าน โทนสีที่สามารถสะท้อนแสงทำให้กันความร้อนได้ดี โดยโทนสีเข้ม จะดูดความร้อนได้ 95% โทนสีสว่าง จะดูดความร้อนเพียง 50% เท่านั้น สิ่งนี้ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรคำนึงถึงด้วย

  • ความยาว

แผ่นวัสดุจะมีความยาวที่หลากหลายตั้งแต่ 0.5-4 เมตร โดยลูกค้าสามารถสั่งตัดตามความยาวของหลังคาหรือการใช้งานได้

  • ราคา

มีหลากหลายราคาจะขึ้นอยู่กับความหนา การเคลือบอลูซิงค์ โดยราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 150-300 บาท

คำถามเกี่ยวกับเมทัลชีท 

  1. แผ่นเมทัลชีท สังกะสีและกระเบื้องต่างกันอย่างไร ?

– เมทัลชีท คือ แผ่นโลหะที่เคลือบด้วยอลูมิเนียมและสังกะสี และอาจมีการทาสีด้วย มีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมได้ดี ลักษณะผิวมีความด้านกว่าสังกะสี โดยวัสดุชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าสังกะสี 

– สังกะสี คือ แผ่นโลหะเคลือบสังกะสีเกือบทั้งหมดซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมเช่นกัน ผิวมีความมันเงา 

– กระเบื้อง คือ หลังคากระเบื้องผลิตจากไฟเบอร์คอนกรีต ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าเมทัลชีท กระเบื้องมีขนาดที่จำกัดกว่า จะเกิดรอยต่อของกระเบื้องมุงหลังคาทำให้สามารถเกิดการรั่วซึมของน้ำได้

  1. เมทัลชีทมีระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ยกี่ปี ?

วัสดุชนิดนี้มีความคงทนและความแข็งแรง มีอายุในการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุมุงหลังคาชนิดอื่นมีอายุการใช้งานใกล้เคียงกัน ฉะนั้นการเลือกใช้ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นทั้งด้านราคา การรั่วซึม และความร้อน 

  1. บ้านที่ใช้หลังคาเมทัลชีทควรติดตั้งฉนวนกันความร้อนหรือไม่ ?

การติดตั้งฉนวนความร้อนเป็นวิธีการลดความร้อนจากหลังคาได้อีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากฉนวนจะทำหน้าที่ลดความร้อนให้เข้าสู่ตัวบ้าน อีกทั้งยังสามารถลดเสียงรบกวนจากฝนที่ตกกระทบหลังคาบ้านได้อีกด้วย ทั้งนี้การแก้ปัญหาความร้อนและเสียงรบกวนควรคำนึงถึงปัจจัยในการออกแบบบ้านที่เอื้อคุณสมบัติต่อกันเช่น การออกแบบหลังคาให้ดูโล่ง สูง โปร่ง มีฝ้าเพดานเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นฉนวนไปในตัว แล้วก็ถือเป็นตัวกันเสียงอีกรูปแบบหนึ่งด้วย

    “เมทัลชีท” เป็นวัสดุก่อสร้างชนิดหนึ่งที่มีความนิยมมากในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติหลักๆ ที่ว่า ติดตั้งง่าย คงทน ราคาถูก และมีหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกซื้อไปใช้งานได้หลากสไตล์หลากสีสันได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และสามารถสร้างความสบายกาย คลายความกังวลใจให้กับผู้พักอาศัยในระยะยาว ซึ่งตอนนี้ หลากหลายร้านค้าก็นำมาขายบนโลกออนไลน์ เช่น เว็บ hiachet.com เป็นผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจร ที่ขายเมทัลชีทราคาประหยัด คุณภาพดี และส่งตรงจากโรงงานโดยตรงการใช้เมทัลชีทในการมุงหลังคาและทำเป็นผนังรอบบ้าน