เกี่ยวกับ ประกันขับดี

0
1342

เกี่ยวกับ ประกันขับดี

คือประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ ที่มีความสมเหตุสมผล จ่ายเมื่อขับและหากไม่ได้ขับก็ไม่ต้องจ่าย เป็นไปตามการใช้งานของผู้ขับขี่รถยนต์จริง ด้วยแนวคิด “ขับรถให้ดี ขับดีเบี้ยถูก” ให้คุ้มครองครบเหมือนประกันภัยรถยนต์ทั่วไป ครอบคลุมทั้งประเภท 1 และประเภท 2+ เหมาะสำหรับผู้ขับรถที่ใช้รถน้อย หรือกลุ่มคนที่ใช้รถเป็นช่วงเวลา และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ขับขี่ที่ขับรถดี ขับรถไม่ซิ่ง ส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่มีวินัยไม่ประมาทของผู้เอาประกันภัย และเมื่อซื้อประกันขับดี จะได้รับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ หรือที่เรียกว่า MSIG Roadside Assistance

ทั้งนี้ ประกันขับดี จะแบ่งค่าเบี้ยประกันออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นค่าเบี้ยประกันพื้นฐานที่ต้องชำระในขั้นตอนซื้อครั้งแรกโดยคุณจะได้รับอุปกรณ์ (MSIG Car Informatics) จากบริษัทฯ เพื่อนำไปติดตั้งในรถยนต์ ส่วนที่สอง เมื่อติดตั้งอุปกรณ์กับตัวรถและทำการ Activate ในแอปพลิเคชัน “ประกันขับดี” หลังจากเริ่มใช้งาน จะมีการคำนวณเบี้ยประกันจากค่าชี้วัดต่างๆ ตามพฤติกรรมการขับขี่เป็นรายวัน
โดยค่าเบี้ยจะถูกรวบรวมและตัดบัตรเครดิตที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้โดยอัตโนมัติเป็นรายเดือน โดยจะตัดบัญชีทุกวันที่ 6 ทุกเดือน

โดยหลักการคิดค่าเบี้ยประกันภัยของ “ประกันขับดี” จะเป็นลักษณะเบี้ยแบบรายวันคิดตามพฤติกรรมการขับขี่จริงของผู้ใช้งานรถยนต์แต่ละราย หรือ Personalized Motor Insurance โดยมีหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้คำนวนผ่าน 5 ตัวแปรหลัก ได้แก่ ระยะทาง / ความเร็ว / ระยะเวลาการขับขี่ / ช่วงเวลาการขับขี่ และพื้นที่การขับขี่ โดยผู้ใช้รถ สามารถติดตั้งอุปกรณ์ MSIG Car Informatics ได้ด้วยตัวเอง โดยการเสียบอุปกรณ์ที่ OBD Port ภายในตัวรถยนต์ตามคู่มือการติดตั้ง หรือสามารถดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน “ประกันขับดี”

ทั้งนี้ “ประกันขับดี” คำนวณจาก 5 แปรหลัก ได้แก่

    1) ระยะทาง คิดจากระยะทางในการขับขี่จริงในแต่ละวัน เช่น หากวันไหนอยู่บ้าน ไม่ได้มีการขับรถ ก็จะไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด

    2) ความเร็วเฉลี่ย คิดเป็นหลักกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะสัมพันธ์กับสภาพการจราจร ความว่างบนท้องถนน โดยคิดเป็นทริปจากวินาทีแรกที่สตาร์ทรถจนถึงวินาทีที่ดับรถ ซึ่งแต่ละคนจะมีความเร็วเฉลี่ยที่ไม่เท่ากัน จากสถิติพบว่า ความเร็วเฉลี่ยของผู้ขับขี่รถในพื้นที่กรุงเทพฯ จะอยู่ราวที่ 2030 กม. / ชั่วโมง แต่ในขณะที่ ผู้ขับขี่รถในต่างจังหวัดจะทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่า อยู่ที่ 4050 กม. / ชั่วโมง และเราจะเห็นได้ว่าผู้ขับรถที่อยู่บนทางหลวงไฮเวย์จะทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่าด้วยเช่นกัน

    3) ระยะเวลา คิดตามระยะทางที่ขับจริง แม้จะเป็นเส้นทางเดียวกัน แต่ระยะเวลาจะ    เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการจราจรของแต่ละวัน เช่น หากอยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID19 คนใช้รถน้อย เราอาจจะใช้เวลาเดินทาง 20 นาที เพื่อขับรถจากบ้านมายังที่ทำงาน แต่หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ อาจต้องใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ซึ่งการอยู่บนท้องถนนในเวลาที่นานกว่า ย่อมมีความเสี่ยงบนท้องถนนมากกว่า

    4) ช่วงเวลา จากการพิจารณาสถิติช่วงเวลาในการเกิดอุบัติเหตุ 5 ปีย้อนหลัง พบว่า ช่วงเวลา 07.00 20.00 น. คือช่วงที่มีการใช้รถยนต์โดยปกติ มีแสงและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ แต่หลังเวลา
22.00 น. สถิติแสดงให้เห็นว่ามีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เนื่องจากความมืด ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับรถ นอกจากนี้ ยังเกี่ยวพันกับความเหนื่อยล้า (Fatigue) ที่ใช้ชีวิตมาทั้งวัน รวมถึง กิจกรรมปาร์ตี้ที่มีการดื่มของมึนเมา และในช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืน – 05.00 น. อุบัติเหตุจะน้อยลง แต่ความเสียหายจะหนักมากๆ เนื่องจากใช้ความเร็วสูงในยามวิกาล

    5) พื้นที่ที่ขับ คิดเบี้ยต่างกันตามจังหวัดที่ขับ โดยใช้สถิติจากสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ย้อนหลัง 5 ปี จากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ 1. โซน A หมายถึง โซนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุน้อย 2. โซน B หมายถึง โซนจังหวัดที่มีเกิดอุบัติเหตุปานกลาง และ 3. โซน C หมายถึง โซนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุมาก

การติดตั้งอุปกรณ์ (MSIG Car Informatics) ด้วยตัวเอง

  1. 1. เลือกตำแหน่ง OBD Port ในรถยนต์ที่ต้องการติดตั้ง
    2. ติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับ OBD Port
    3. ดาวน์โหลด และติดตั้งแอปพลิเคชัน “ประกันขับดี” เพื่อเริ่มต้นความคุ้มครองแผนประกันขับดี 

*ประกันขับดี คุ้มครองรถทุกรุ่น (ยกเว้นรถยุโรป) ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป หรือ “ขับดี Service Center by MSIG” 065-924-1175