สศก. จับมือ การเคหะแห่งชาติ เชื่อมโยงฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศพัฒนาพื้นที่เกษตร สร้างรายได้จากผลผลิต ยกระดับวิถีชีวิตชุมชนการเคหะฯ

0
1497

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ร่วมกับ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ โดยมี นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ    ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย ดร.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ เรืออากาศโทชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ลงนามในฐานะพยาน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ณ ห้องประชุม 3 อาคารนวัตกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้น ความร่วมมือทางวิชาการกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเกษตร พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน โดยการเคหะแห่งชาติจะส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมั่นว่าจะสามารถการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของประชาชนในชุมชนให้เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ มีการพัฒนาเมืองและชุมชนให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ตลอดจนเกิดการการบริหารจัดการชุมชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมความสัมพันธ์ในการพัฒนาด้านการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ ร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“การเคหะแห่งชาติ มีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้รับผล​    กระทบ ดังนั้น หากมีการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนสามารถดำรงชีพอยู่ได้ จะทำให้ประชาชนมีความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งการสร้างรายได้ทางการเกษตร ด้วยการผลิต การแปรรูป และสร้างการตลาดของพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ที่จำกัด นับเป็นสิ่งที่การเคหะแห่งชาติ และประชาชนในพื้นที่มีความต้องการอย่างมาก เพราะทำให้มีทางเลือกและช่องทางการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้จากการทำการเกษตรมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มศักยภาพด้านการเกษตรให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติ และพื้นที่โดยรอบให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าว