บ้านนาก๋างโต้ง” รีสอร์ตบนทุ่งนา ใจกลางเมืองน่าน ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่ เช็คอินฟินธรรมชาติได้ตลอดปี

0
1716

รีสอร์ตและคาเฟ่สไตล์เรือนไม้ดีไซน์โมเดิร์นสุดเก๋  ตั้งอยู่กลางท้องทุ่งนา แวดล้อมด้วยภูเขา และธรรมชาติงดงาม  แถมเดินทางสะดวก เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองน่าน  นี่เป็นจุดเด่น ติดปีกให้ “บ้านนาก๋างโต้ง” ธุรกิจน้องใหม่ของ จ.น่าน ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เตรียมขึ้นแท่นอีกแลนด์มาร์คประจำจังหวัดน่านที่สามารถไปเช็คอินฟินธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี    

ณะวีร์ เต็งไตรรัตน์ กับ พลอยพัชชา หาญยุทธ์ หนุ่มสาวรุ่นใหม่ ลูกหลานเมืองน่านแท้ ๆ คือ ผู้อยู่เบื้องต้นรีสอร์ตคาเฟ่แสนสวยแห่งนี้   

“ที่ดินนี้เป็นของครอบครัวผม เดิมใช้ทำนาปลูกข้าว ส่วนตัว ผมมีความฝันอยากทำคาเฟ่ ประกอบกับที่ดินตรงนี้ ทำเลดีมาก อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน กับสนามบิน แค่ประมาณ 10 กิโลเมตร แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ  หากจะหาบรรยากาศแบบนี้ได้  นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปที่ อ.บ่อเกลือ หรือ อ.ปัว  ผมเลยเกิดไอเดียปรึกษากับครอบครัว นำที่ดินของเรามาพัฒนาเป็นรีสอร์ตและคาเฟ่  มีจุดเด่น ธรรมชาติสวยงาม และเดินทางสะดวก” ณะวีร์ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้าง “บ้านนาก๋างโต้ง”

จากเนื้อที่รวมกว่า 39 ไร่ ถูกจัดสรรมาประมาณ 10 ไร่ เพื่อสร้างรีสอร์ตและคาเฟ่ โดยได้ยอดฝีมืออย่าง“วิโรจน์        ฉิมมี”  สถาปัตยกรรมชื่อดัง  มาทำหน้าที่ออกแบบให้  ตั้งชื่อว่า “บ้านนาก๋างโต้ง” หมายถึง  บ้านกลางทุ่งนา เน้นเป็นเรือนไม้สไตล์โมเดิร์น ยกพื้นสูงอยู่บนทุ่งนา เอกลักษณ์เด่นมีสะพานไม้รูปวงกลมตั้งอยู่ตรงกลางรีสอร์ต เชื่อมต่อระหว่างส่วนล็อบบี้ คาเฟ่ เดินไปสู่บ้านพัก ซึ่งปัจจุบันมี 9 หลักในสไตล์แตกต่างกัน เช่น  บ้านริมบึง  บ้านธารน้ำใส  บ้านนาเคียงดาว   บ้านรวงข้าว และบ้านอาบศิลา เป็นต้น  ราคาที่พักเริ่มต้นประมาณ 3,500 บาทต่อหลัง  ขณะที่คาเฟ่ มีบริการเครื่องดื่มประเภทกาแฟ และเบเกอรี่ ซึ่งล้วนใช้ผลผลิตทางการเกษตรจากท้องถิ่น

ส่วนปัจจัยสำคัญเรื่อง “เงินทุน” ที่มาช่วยสานจากฝันให้เกิดเป็นจริง  เจ้าของธุรกิจหนุ่ม เล่าว่า ในเวลานั้น รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม มีโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยถูกเพียง 1% ต่อปีให้เอสเอ็มอีไทย  ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  จึงได้เสนอแผนธุรกิจ และได้รับการพิจารณาเงินทุน จำนวน 10 ล้านบาท ช่วยให้มีเงินทุนนำไปใช้ก่อสร้างจนสำเร็จในที่สุด 

“หลายคน มักจะพูดว่า เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนยาก แต่สำหรับผม ไม่ได้ยากเลย หากเรามีการเตรียมตัวที่ดี  มีแผนธุรกิจชัดเจน  ทางธนาคารก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งเงินทุนตัวนี้  มาในจังหวะที่เหมาะสม  ช่วงที่เรากำลังต้องลงทุน ทำให้โครงการสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้”ณะวีร์ กล่าว 

“บ้านนาก๋างโต้ง” เริ่มเปิดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมานี่เอง  ซึ่งก่อนหน้านั้น จากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรก ยังส่งผลกระทบแก่ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ดังนั้น ก่อนจะเปิดให้บริการ เผื่อใจไว้บ้าง ลูกค้าอาจไม่เป็นไปตามเป้า  ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริง กลับตรงกันข้าม นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศแห่มาเยือนจนแน่นขนัด แถมช่วยไปแชร์ต่อในโลกออนไลน์ ช่วยให้บ้านนาก๋างโต้งแจ้งเกิดเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

“ก่อนจะเริ่มเปิดจริง เราได้ทำประชาสัมพันธ์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมถึง มีบล็อกเกอร์ และยูทูปเปอร์ด้านท่องเที่ยวหลายคนเข้ามาทำรีวิว อีกทั้ง คนไทยคงจะอัดอั้น เพราะไม่ได้เที่ยวมานาน พอเราเปิดบริการจริง ลูกค้ามากันเยอะมาก แถมคนที่มาแล้ว ก็ช่วยไปบอกต่อ ผลตอบรับยิ่งดีขึ้นไปอีก” ณะวีร์ เล่า

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาฮันนีมูนของธุรกิจ เกิดขึ้นเพียงแค่เดือนกว่า ๆ เท่านั้น เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด  นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาเมืองน่านได้  ดังนั้น  ต้องปรับตัวทางธุรกิจ โดยใช้เวลาช่วงนี้ ทบทวนประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อม รองรับนักท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้งภายนอกสถานการณ์โควิดคลี่คลาย  นอกจากนั้น  SME D Bank ยังมาช่วยสนับสนุนต่อเนื่อง โดยอนุมัติ “สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash” ช่วยให้มีเงินทุนนำไปใช้หมุนเวียน และขยายธุรกิจสร้างบ้านพักเพิ่มเติมด้วย  

เจ้าของธุรกิจทั้งสอง  กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่คนจะมาเที่ยว จ.น่าน แค่ประมาณ 4 เดือน  คือ ช่วงปลายปีต่อต้นปี ดังนั้น แผนธุรกิจที่ไว้วาง ต้องการให้ “บ้านนาก๋างโต้ง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  โดยจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในรีสอร์ต ด้วยการทำเกษตรแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น หลังฤดูกาลทำนา เปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่แม้จะกลับมาซ้ำ ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันไปเสมอ  นอกจากนั้น พัฒนาพื้นที่ที่ยังเหลือทำการเกษตร เช่น ปลูกกาแฟ เป็นต้น เพื่อนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายต่อไป 

ควบคู่กับสร้างแบรนด์ “บ้านนาก๋างโต้ง” ให้เป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญของ จ.น่าน  ใครก็ตาม เมื่อมาเยือนเมืองน่าน  ต้องไม่พลาดแวะมาท่องเที่ยวรีสอร์ตแห่งนี้ด้วย พร้อมกับถ่ายภาพพร้อมเช็คอินเก็บความประทับใจกลับไป รวมถึงช่วยไปบอกต่อ  ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องและยั่งยืน

ติดต่อ โทร. 086 654 4564  , FB: บ้านนาก๋างโต้ง Baan Na Kang Tong