กสิกรไทยจับมือ 2 เครือโรงแรมใหญ่กะตะธานี และกะตะกรุ๊ป นำร่องโครงการ ”เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ตั้งเป้าทั้งโครงการช่วยพนักงาน 15,000 คน ไม่ให้ตกงาน

0
1718

กสิกรไทยจับมือ 2 เครือโรงแรมใหญ่ในภูเก็ต โรงแรมในเครือกะตะธานี และเครือกะตะกรุ๊ป นำร่องโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจช่วยเหลือพนักงานที่มีรายได้น้อย ให้มีงานทำ และลดภาระหนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ในภาวะวิกฤต เริ่มที่ผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต 127 รายที่มีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด พร้อมตั้งงบช่วยเหลือ 100 ล้านบาท ช่วยพนักงาน 3,000 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และเตรียมขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยตั้งเป้าใช้งบทั้งโครงการราว 500 ล้านบาท ช่วยพนักงาน 15,000 คน

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับผลกระทบกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ พนักงาน และประชาชนทั่วไป ซึ่งหนทางที่จะช่วยให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ คือ การร่วมมือร่วมใจ และให้การข่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงได้ริเริ่มโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการที่มีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่มีรายได้น้อยให้สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์ตอนนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารและธุรกิจ ด้วยการลดดอกเบี้ยและเพิ่มเงินทุนให้กับธุรกิจ เพื่อช่วยให้มีกำลังจ้างพนักงานให้มีงานทำต่อเนื่อง มีรายได้ พร้อมช่วยลดภาระหนี้ต่าง ๆ

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในช่วงนำร่องมี 2 ราย คือ โรงแรมในเครือกะตะธานี และเครือกะตะกรุ๊ป ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นเครือโรงแรมขนาดใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต และอยู่ในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากโรคโควิด-19 แต่ทั้ง 2 โรงแรมมีความรับผิดชอบในการดูแลพนักงานทุกคน โดยไม่มีการเลิกจ้าง หรือให้หยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน ในจังหวัดภูเก็ตมีผู้ประกอบการ 127 รายที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ซึ่งธนาคารใช้งบประมาณช่วยเหลือ 100 ล้านบาท ตั้งเป้าช่วยพนักงาน 3,000 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน

นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะธานี เปิดเผยว่า ทุกวิกฤตที่ผ่านมาถือว่าเป็นโอกาส ทำให้ภาคธุรกิจเอกชนได้เรียนรู้และแข็งแกร่งขึ้น วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรโลก ทุกประเทศในโลกต้องเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข การแพทย์ การศึกษา และการบริหารจัดการประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ต่อสู้กับวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา นับจากนี้ไปเป็นโอกาสดีของคนไทยทุกภาคส่วนที่จะต้องทิ้งความคิดแบบเดิม ๆ และวิถีเดิม ๆ เพื่อเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลง

 

นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า พนักงานเป็นทรัพย์สินอันทรงคุณค่าของธุรกิจ ไม่เคยคิดเลิกจ้างพนักงาน ในสถานการณ์ปกติพนักงานช่วยทำงาน สร้างความมั่งคั่งให้ธุรกิจ ในยามเจอวิกฤตก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน เพราะเชื่อมั่นว่ายามที่พนักงานลำบาก​ แล้วเจ้าของไม่ทอดทิ้ง​คอยประคับประคองให้เขาอยู่ได้​ เมื่อวันที่โรงแรมกลับมาเปิดอีกครั้ง พนักงานทุกคนจะกระตือรือล้น​ มุ่งมั่นและรักในองค์กรมากขึ้น จึงอยากแนะนำให้องค์กรต่าง ๆ รักษาพนักงาน​ ช่วยเหลือและอย่าทอดทิ้ง ขณะนี้มีเพียงธนาคารแห่งเดียว คือ ธนาคารกสิกรไทยที่เล็งเห็นความสำคัญของพนักงาน​ นี่คือคุณธรรมล้ำเลิศของผู้บริหารธนาคาร

การช่วยเหลือภายใต้โครงการดังกล่าว ธนาคารจะติดต่อลูกค้าผู้ประกอบการเพื่อเชิญเข้าร่วมโครงการ โดยมีรายละเอียดของมาตรการช่วยเหลือทางการเงินทั้งด้านธุรกิจและพนักงาน ดังนี้

มาตรการช่วยเหลือธุรกิจ มาตรการช่วยเหลือพนักงาน
วงเงินสินเชื่อเดิม

–          ลดดอกเบี้ย ระยะเวลา 6 เดือน

–          พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน

วงเงินสินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและดูแลพนักงาน

–          สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ

 

บัตรเครดิตกสิกรไทย และบัตรเงินด่วน

–          ลดดอกเบี้ย 6% ถึงกันยายน 2563

–          พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย ถึง ธันวาคม 2563

สินเชื่อเงินด่วน

–          ลดดอกเบี้ย 6% ถึงกันยายน 2563

–          พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน

สินเชื่อบ้าน

–          พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน

สินเชื่อรถยนต์

–          พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน

 

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารคาดหวังว่าความช่วยเหลือภายใต้โครงการนี้ จะสามารถช่วยเหลือพนักงานให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ และจะขยายผลโครงการไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป