“กรุงไทย” ปิดบิ๊กดีล!  ผนึก“เอคเซนเชอร์” ตั้งบริษัทร่วมทุน สร้าง“Digital Talents” รองรับธุรกิจดิจิทัลทั่วโลก 

0
1275

“กรุงไทย”สยายปีกขยายธุรกิจ ส่ง“อินฟินิธัส” ผนึก“เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์”  บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก  ตั้งบริษัทร่วมทุน  “Arise by Infinitas”   สร้างอัจฉริยะสายพันธุ์ดิจิทัล หรือ  “Digital Talents”   รองรับแผนขยายธุรกิจของกรุงไทย อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในไทยและต่างประเทศ  ตั้งเป้าสร้างมูลค่ากิจการ 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างชัดเจน จากความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทางการเงินของภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ระบบพร้อมเพย์ คิวอาร์โค้ด การขับเคลื่อนโครงการภาครัฐผ่าน GWallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ร่วมกับธนาคารกรุงไทย รวมถึงการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมายกระดับการบริการภาครัฐ เช่นระบบการคืนภาษีนักท่องเที่ยว และการขายพันธบัตรภาครัฐ  ซึ่งล้วนมีส่วนทำให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เรียนรู้และเข้าถึงบริการการเงินดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำพาประเทศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลหลังจากนี้  การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ถือเป็นความท้าทาย เพราะประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี สะท้อนจากผลศึกษาปี 2564 ของ OECD พบว่า ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานระดับผู้เชี่ยวชาญมากกว่าประเทศในกลุ่ม OECD โดยเฉพาะในภาคการเงิน ขณะที่แรงงานที่เพิ่งจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์มีเพียง 21%  ต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว และต่ำกว่าความต้องการแรงงานในด้านนี้ที่มีสูงถึง 41% ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงไทย โดยอินฟินิธัส บาย กรุงไทย และ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด  ในการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะมาปิดช่องว่างนี้ พร้อมทำให้เศรษฐกิจไทยเดินไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น ครอบคลุม 5 ecosystems หลัก  ผ่านการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งระบบปิดและระบบเปิด หรือ แอปฯเป๋าตัง ที่เป็น Thailand Open Digital Platform ได้รับการพัฒนาโดยอินฟินิธัส บาย กรุงไทย ทำให้ธนาคารสามารถเข้าถึงคนไทยกว่า 50 ล้านคนและร้านค้ากว่า 1.5 ล้านร้านค้า  โดยธนาคารและอินฟินิธัส พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านดิจิทัลที่มีความเชี่ยวชาญและหลากหลาย ยึดหลัก “One unite goal as a F1 Team” ภายใต้การคิดแบบนอกกรอบ ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในระดับโลก จึงได้จัดตั้งบริษัท Arise เพื่อเพิ่มศักยภาพและทรัพยากรบุคคลทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลโดยเฉพาะ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในระดับภูมิภาคและในระดับโลก 

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์ Technology Disruption และการระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ทุกภาคส่วนก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลเร็วยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะภาคตลาดเงินและตลาดทุน เกิดบริการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล  หุ้นกู้ภาคเอกชน และซื้อขายทองคำ ผ่านช่องทางดิจิทัลแบบครบวงจร เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงการออมและการลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในระยะถัดไปจะเห็นประเทศเร่งพัฒนาตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เพียงพอ การเปิดตัวบริษัท Arise จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศในการสร้าง word-class talents มาร่วมพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ สร้างกลไกตลาดการจัดสรรทรัพยากรเงินทุนให้เข้าถึงได้ทุกคน บนต้นทุนที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ ภายใต้บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารที่เปรียบเสมือนเรือเร็ว  (Speed Boat) ในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลในอนาคต โดยเปิดกว้างเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด อินฟินิธัสจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก (Global Technology Firm) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ “Arise by Infinitas”  ในสัดส่วน 51% : 49% ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท  เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ   รองรับการขยายธุรกิจของธนาคาร อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ   โดยการร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนของแอคเซนเชอร์กับกลุ่มสถาบันการเงินเป็นครั้งแรกในเอเชีย

บริษัท Arise by Infinitas ตั้งเป้าดำเนินธุรกิจด้วยแนวทาง TechFin เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรรองรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆได้อย่างรวดเร็ว  ทั้งในด้านนวัตกรรมทางการเงิน และการพัฒนาบุคลากร โดยมุ่งพัฒนาโครงการและโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะเร่งให้ธนาคารกรุงไทยสามารถปรับกระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้เป็นดิจิทัล (Digitization) และปรับไปสู่ Cloud-centric Model ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคของธนาคารในระยะยาว   โดยบริษัท Arise by  Infinitas   ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน มีประสบการณ์การทำงานระดับ World class ด้วยการสร้างฐานบุคลากรในประเทศ และดึงกลุ่ม  Technology Talents จากต่างประเทศมาร่วมงาน พร้อมมีแผนจัดตั้ง Virtual Office ในอีกหลายประเทศ โดยคาดว่าภายใน 5  ปี จะมีมูลค่ากิจการสูงถึง 20,000 ล้านบาท 

“จากการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในสาขาต่างๆ ทำให้บุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญขาดแคลนในตลาดแรงงาน ทั้งในและต่างประเทศ และมีการแย่งชิงตัวกันสูงมาก ซึ่งบริษัท Arise by Infinitas จะเข้ามาปิดช่องว่างในการพัฒนาคน เป็นองค์กรเป้าหมายที่คนรุ่นใหม่ รวมถึง Digital Talents  อยากมาร่วมงานด้วย  เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้าน Digital Capabilities ให้กับกลุ่มธนาคารกรุงไทย รองรับการเติบโตตามแผนธุรกิจ   พร้อมสร้างอัจฉริยะด้านดิจิทัล (Digital Talents)  ช่วยพัฒนา Digital Platforms ให้ประเทศ  รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในไทยและต่างประเทศ” 

สำหรับทิศทางของ Arise by Infinitas ที่จะมุ่งไป ประกอบด้วย   Agility  การสร้างความคล่องตัวในองค์กร เพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ  Reliablity  การสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อเปิดโอกาสสังคมไทย  Innovation  การสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่ม  Stability  การสร้างผลงานที่มีเสถียรภาพและมอบประสบการณ์ที่ดีให้ทั้งลูกค้าและพนักงาน Equality การสร้างความเท่าเทียม ความเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อบรรลุเป้าหมาย 

ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัทเอคเซนเชอร์ ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก  จะสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท Arise ทั้งการ Set Up องค์กรให้ดึงดูด Talents  จากทั่วโลก ตอบโจทย์ทั้งด้านการเติบโตในอาชีพ ความท้าทาย และทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง พร้อมวางแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการ การสร้างแพลตฟอร์มและโปรแกรมการพัฒนาบุคลากร โดยมองถึงทักษะที่สำคัญและเป็นที่ต้องการสำหรับเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต เชื่อมั่นว่า บุคลากรของ Arise  จะมีศักยภาพเทียบเท่าองค์กรชั้นนำในระดับโลก สามารถสร้าง Impact ต่อกลุ่มธนาคารและการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ 

นายดิวีเยช วิทลานี่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอคเซนเชอร์  เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์การทำธุรกรรมที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่ายให้กับลูกค้า  โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างรวดเร็วได้ คือ Digital Transformation  ซึ่งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่หลากหลายของเอคเซนเชอร์จะช่วยให้ธนาคารสามารถพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมดิจิทัล สร้างบุคลากรอัจฉริยะด้านดิจิทัล และเติบโตก้าวนำตลาดได้  ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงการสร้างคุณค่าแบบ 360 องศาให้กับลูกค้าของเรา เป็นประโยชน์ทั้งกับลูกค้า  รวมถึงลูกค้าของคู่ค้า และพนักงานคู่ค้า  ในประเทศไทยและในภูมิภาค

ทั้งนี้ บริษัทเอคเซนเชอร์และธนาคารกรุงไทย เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน ร่วมสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ช่วยให้รัฐบาลสามารถส่งมอบความช่วยเหลือในช่วงวิกฤตโควิด-19 ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส รวมถึงช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และการลงทุนต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น

ข้อมูล บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด 

บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด  (Infinitas by Krungthai) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ตามยุทธศาสตร์คู่ขนาน หรือ 2 Banking Model ของธนาคารกรุงไทย ภายใต้รูปแบบ การขับเคลื่อนธุรกิจแบบใหม่ (Digital Organization)  ซึ่งเปรียบเสมือนเรือเร็ว (Speed  Boat) ของธนาคารในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ (New Business Model) โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ที่ผ่านมา อินฟินิธัสมีผลงานที่โดดเด่นในการพัฒนาแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้เป็น Thailand Open Digital Platform  สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการภาครัฐผ่าน  “G Wallet”  ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน  และยิ่งใช้ยิ่งได้  ตอบโจทย์บริการด้านสุขภาพทั้งการตรวจเช็คสิทธิและจองใช้สิทธิด้านสุขภาพร่วมกับสปสช.ผ่าน “กระเป๋าสุขภาพ” หรือ “Health Wallet“   ปฎิวัติการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลผ่าน “วอลเล็ต สบม.” ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท พลิกโฉมการลงทุนทองคำออนไลน์ครบวงจรเป็นครั้งแรกในไทยผ่าน “Gold Wallet”  เปิดให้ลงทุนหุ้นกู้ดิจิทัลภาคเอกชนบนวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในเอเชีย ผ่านบริการ “ซื้อขายหุ้นกู้” บนเป๋าตัง  ซื้อง่าย ขายง่าย ได้ทันที  ด้วยบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังแล้วมากกว่า 33 ล้านคน

KBTG teams with Muang Thai Insurance in developing InsurTech, an AI-based vehicle inspection – a Thai first

  KASIKORN Business Technology Group (KBTG) has joined with Muang Thai Insurance Pcl (MTI) in launching InsurTech – an AI-based platform for self-service pre-insurance car inspection to ensure greater efficiency. The first of its kind in Thailand, the digital platform for vehicle condition checks will deliver a novel customer experience with only a few minutes required via a user-friendly online system available 24/7. 

Mr. Ruangroj Poonpol, KBTG Group Chairman, said that the InsurTech platform project is the first insurance coinnovation of KBTG and Muang Thai Insurance. By applying Deep Tech with the InsurTech innovation, this digital platform is used for preinsurance car inspection, a first for Thailand. By leveraging the development of image processing and artificial intelligence (AI) technology into an AI as a Service model and the use of Muang Thai Insurances database and its personnel wellversed in AI training and car damage detection model creation, the two companies have innovated a novel car inspection system. The service will be rolled out via Progress Multi Insurance Broker Co., Ltd. (PMIB), wholly owned by KASIKORN Leasing Co., Ltd., which is a subsidiary of KASIKORNBANK (KBank).

During the initial phase, operations will be based on a hybrid system; that is, car inspections will be carried out by the AI technology and a specialist team. Customers can send their car photos for inspection by themselves, like a selfservice. After that, the AI technology will assess the cars condition from the photos. If areas of damage are found on the cars body, the system will automatically mark that damage before sending that data to the car inspection team to verify once more. The total process takes only a few minutes via a userfriendly online system that is available aroundtheclock. Precision of the AI technology will be improved as more users sign up. It is expected that the AI system will learn and improve its capacity to fully automate the car inspection process over the next one to two years.      

Technological development process for the AI car inspection system comprises three major steps:

1.Data and photo preparation, plus the system used for teaching AI for car inspection: KBTG and Muang Thai Insurance are jointly responsible for the development of this step.

  1. 2. AI model building: It is solely undertaken by KBTG.
  2. 3. Business application of the AI technology: It is used by Muang Thai Insurance to efficiently offer services to its customers as it helps the company gain easier access to its clients while also allowing the nonlife insurance business to thrive on the digital platform in the future

Additionally, KBTG and Muang Thai Insurance are planning to use the AIbased car inspection system in other channels, with the aim of offering comprehensive services to customers. There is also a potential to apply the AI technology to other services in the car insurance ecosystem such as insurance claims

Mrs. Nualphan Lamsam, President and Chief Executive Officer, Muang Thai Insurance Public Company Limited (MTI), revealed that pre-insurance car inspection used to be carried out in the form of appointments between customers and the company, which is more time-consuming and costly. MTI is the first company to apply AI technology to the insurance business as a means of processing car inspection data. This is achieved through its cooperation with KBTG, Thailand’s leading technology expert. InsurTech serves as the culmination of developments in the car inspection system, ensuring greater speed and convenience for customers.

Mrs. Nualphan added, “By incorporating AI into the development of a data processing system for car inspection, we are able to enhance our potential in managing risks and expenses as well as explore new channels for offering insurance plans through the application of such technology. Not only will it help us to effectively meet the demands of our customers, which vary from person to person; the technology will also give customers access to a wide and comprehensive range of insurance products during an era wherein customers make and refine purchases by themselves. Continuously improving MTI’s insurance services with AI technology, we are planning to bring in AI to support internal operations in the future to best serve our customers in the digital age as well.”

Potential customers can inquire for more details about buying insurance and related services at https://pmib.kasikornleasing.com, or contact our call center at 1484, or visit the website, www.muangthaiinsurance.com. Customers should study the coverage details and conditions before making a purchase decision.